คาดการณ์อนาคตของ Web 3 ในปี 2568

Web 3 กำเนิดขึ้นเพื่อตอบโต้การผูกขาดอำนาจควบคุมอินเทอร์เน็ตโดยบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ต่างจากยุค Web2 ที่พึ่งพาแพลตฟอร์มอย่าง Google, Facebook และ Amazon นวัตกรรม Web3 ถูกสร้างบนเทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อเปิดทางสู่การกระจายศูนย์ (decentralization) สร้างความโปร่งใส และการให้ผู้ใช้ร่วมมีส่วนเป็นผู้ตัดสินใจและเป็นเจ้าของข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นในระบบ
หากพูดกันตามทฤษฎีแล้วนั้น การนำ Web 3 มาปรับใช้น่าจะทำให้เกิดโอกาสแก่ผู้ใช้ในการควบคุมข้อมูลของตนเอง กำจัดตัวกลางที่ทรงอิทธิพล และสร้างธุรกรรมแบบปลอดภัย (trustless transactions) ตลอดหลายปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดด ดึงดูดเงินลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจุดประกายนวัตกรรมในด้านการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi),โทเคนที่ไม่สามารถทดแทนกันได้ (NFTs) และองค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์ (DAOs)
คำถามคือ ในปี 2568 Web 3 กำลังเดินไปในทิศทางใดและได้บรรลุศักยภาพที่ตั้งไว้แล้วหรือยัง
แม้ Web 3 จะเริ่มเป็นที่รู้จักจากกระแสสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ปัจจุบันกรณีการใช้งานได้ขยายไปสู่หลายอุตสาหกรรม ทั้งการเงิน การผลิต สาธารณสุข และบันเทิง ซึ่งต่างนำบล็อกเชนมาใช้เพื่อสร้างธุรกรรมที่ปลอดภัยและโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ มีตัวอย่างรัฐบาลและภาคธุรกิจกำลังบูรณาการบล็อกเชนเพื่อการยืนยันตัวตนและจัดทำหนังสือเดินทางดิจิทัลสำหรับการซื้อขายสินค้าระหว่างประเทศ เพื่อลดการฉ้อโกงและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ประชาชนในประเทศ อย่างไรก็ดี การนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในวงกว้างยังถูกจำกัดด้วยประสบการณ์ผู้ใช้และความซับซ้อน รวมถึงความไม่ชัดเจนด้านกฎหมายและกฎระเบียบ
วงการที่ให้การตอบรับกระแส Web 3 เป็นอย่างดีที่สุดได้แก่ วงการการเงิน
แพลตฟอร์ม DeFi หรือ Decentralized Finance ได้พลิกโฉมอุตสาหกรรมการเงิน ด้วยการเปิดให้ทำธุรกรรมข้ามพรมแดน การให้กู้ยืม และการวางหลักประกัน (staking) โดยไม่ต้องพึ่งตัวกลางทรงอิทธิพล เช่น ธนาคารพาณิชย์ อีกต่อไป โดยในปี 2025 ระบบการเงินผ่านแพลตฟอร์ม DeFi เริ่มมีความมั่นคงมากขึ้น และมีการพัฒนามาตรการรักษาความปลอดภัยและกรอบการปฏิบัติตามกฎหมายที่ดึงดูดนักลงทุนสถาบัน ทำให้ธนาคารระดับโลกเริ่มนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้บนเครือข่ายบล็อกเชน เชื่อมโยงการเงินดั้งเดิมกับ DeFi แล้ว อย่างไรก็ตาม ปัญหาด้านการถูกโจรกรรมทางไซเบอร์เนื่องจากช่องโหว่ของ smart contract และข้อจำกัดอื่น ๆ ทางระบบทำให้ Web 3 สำหรับโลกทางการเงินและการลงทุนไม่เติบโตอย่างรวดเร็วเท่าที่หลาย ๆ คนคาดการณ์ไว้
การสร้างองค์กรที่ปราศจากผู้ทรงอิทธิพลและเปิดโอกาสให้สมาชิกในองค์กรตัดสินใจร่วมกัน (DAO – Decentralized Autonomous Organization)
DAO เคยถูกยกย่องว่าเป็นอนาคตของการกำหนดนโยบายโดยองค์กรหรือชุมชน แม้บางแห่งจะบริหารเงินทุนและโครงการได้สำเร็จ แต่หลายแห่งกลับเผชิญปัญหาด้านธรรมาภิบาลและประสิทธิภาพ โครงการ DAO บางโครงการมีการระดมทุนแล้วจริงเพื่อดำเนินงานเกี่ยวกับ พลังงานหมุนเวียน และการพัฒนาซอฟต์แวร์ประเภท open-source แต่ด้วยการขาดกรอบกฎหมายที่ชัดเจน DAO จำนวนมากยังเผชิญความท้าทายด้านความรับผิดชอบและการดำเนินงาน
ปี 2568 ไม่ใช่ปีของ Web 3 แต่เป็นปีแห่ง AI หรือปัญญาประดิษฐ์ อย่างไรก็ดี ปัญญาประดิษฐ์และ Web3 เป็นเทคโนโลยีที่นำมาใช้ผสานกันได้อย่างสอดคล้องเพื่อสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น โดยมีการนำ AI มาใช้เพื่อกำหนด smart contract และสนับสนุนการสร้าง Web 3 ในส่วนอื่น ๆ
ปัญหาของ Web 3 ที่เป็นความท้าทายมากที่สุดในปี 2568 ก็ยังเป็นปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายและกฎระเบียบโดยเฉพาะการไม่มีกฎหมายกลางระหว่างประเทศในการกำหนดท่าทีเกี่ยวกับการกำกับดูแล Web 3 ซึ่งอาจทำให้โลกอินเตอร์เน็ตยุคใหม่นี้ตกอยู่ภายใต้ปัญหาเช่นเดียวกับอินเตอร์เน็ตแบบ Web 2 ในปัจจุบัน เราเริ่มจะเห็นความพยายามของประเทศในภูมิภาคซีกโลกเหนือพยายามออกนโยบายที่เป็นมิตรต่อ Web3 ส่งเสริมนวัตกรรมควบคู่กับการรักษามาตรฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม กฎระเบียบที่เข้มงวดเกินไปอาจขัดขวางนวัตกรรมและผลักดันโครงการให้ย้ายไปต่างประเทศ
กล่าวโดยสรุป การพัฒนา Web 3 ยังต้องเผชิญกับความท้าทายในหลายด้านตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น นอกจากนั้น ยังอาจต้องแก้ไขปัญหาอื่น ๆ ต่อไปนี้ด้วยเพื่อให้การพัฒนา Web 3 เป็นไปตามที่เราวาดฝันกันไว้
- ประสบการณ์ผู้ใช้: โดยผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน Web3 มักต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญในการตั้งค่าต่าง ๆ ทำให้การใช้งานในวงกว้างยังจำกัด
- ข้อจำกัดด้านการขยายระบบ: เครือข่ายบล็อกเชนหลายเครือข่ายยังประสบปัญหาความเร็วธุรกรรมและค่าธรรมเนียมสูง
- ความปลอดภัย: ช่องโหว่ของ smart contract ยังนำไปสู่ปัญหาโจรกรรมทางการเงิน
- การเชื่อมต่อข้ามเครือข่าย: ระบบนิเวศบล็อกเชนยังคงกระจัดกระจาย ทำให้การบูรณาการอย่างไร้รอยต่อเป็นเรื่องยาก
⚠️ คำเตือน: คริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัล มีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
KuCoin Thailand
(ดำเนินงานโดยบริษัท อีอาร์เอ็กซ์ จำกัด)
Email: happy@kucoin.th | Call Center: 02-080-6060
- Facebook: facebook.com/KuCoinThailand
- Instagram: Kucointhailand
- LINE Official Account: @KuCoinThailand
- X (formerly Twitter): x.com/KuCoinThailand
- Tiktok: @KuCoinThailand
- Telegram: @KuCoinTH_Official
- Facebook Group: Kucoin Thailand Official Community
📲 ดาวน์โหลดแอป KuCoin Thailand ได้แล้วตอนนี้!
👉 คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลด พร้อมให้บริการทั้งบน App Store และ Play Store ประเทศไทย
