coin icon

ราคา Bitcoin

(BTC)

฿3,525,295
+0.32%(1 วัน)

กราฟราคา Bitcoin (BTC) แบบเรียลไทม์
    pk

    ข้อมูล BTC(BTC)

    altอันดับ1
    rateAAA
    ขยาย arrow icon
    ฿3,493,201
    ฿3,534,912

    ATH
    ฿126,198.06960343
    เปลี่ยนแปลงราคา (1H)
    -0.27%
    เปลี่ยนแปลงราคา (24H)
    +0.32%
    เปลี่ยนแปลงราคา (7D)
    -4.55%
    มูลค่าตลาด
    หมุนเวียน 24H
    อุปทานหมุนเวียน
    19,936,690
    จำนวนเหรียญสูงสุด
    21,000,000

    เกี่ยวกับ BTC

    • ฉันสามารถซื้อ Bitcoin (BTC) ได้อย่างไร?
      การซื้อ BTC บน KuCoin Thailand นั้นรวดเร็วและง่ายดาย เพียงสร้างบัญชี ยืนยันตัวตน ฝากเงินทุน และเริ่มเทรดได้ง่าย ช่างง่ายดายเหลือเกิน โปรดดูวิธีการซื้อ Bitcoin (BTC) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
    • Bitcoin (BTC) คืออะไร?

      Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) แรกของโลก ถูกออกแบบภายใต้การทำงานแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) บนเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งแตกต่างจากสกุลเงินแบบดั้งเดิม เพราะสามารถใช้เป็นทั้งเครื่องมือเก็บมูลค่า (Store of Value) และชำระเงินแบบดิจิทัลได้ โดยไม่ต้องผ่านหน่วยงานกลาง อย่างธนาคารหรือสถาบันการเงิน โดยใช้ชื่อย่อว่า BTC เป็นสัญลักษณ์แทนชื่อเต็มของ Bitcoin ในตลาด

       

      แม้เงินดิจิทัลจะเริ่มถูกนำมาใช้ทำธุรกรรมออนไลน์มานานแล้ว แต่ Bitcoin ก็ยังโดดเด่นกว่าด้วยระบบกระจายศูนย์ ทุกการโอนหรือรับเงินเกิดขึ้นบนบล็อกเชนแบบ Peer-to-Peer โดยไม่ต้องมีตัวกลาง ทำให้ปลอดภัย โปร่งใส และอิสระจากระบบการเงินแบบเดิมอย่างแท้จริง

       

      การลงทุนใน Bitcoin หมายถึงการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลที่ราคาสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว จึงมีทั้งโอกาสและความเสี่ยง การเก็บ Bitcoin ทำได้ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) ที่มีระบบเข้ารหัส (Cryptography) ป้องกันการปลอมแปลง หลายคนมอง Bitcoin เป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ และใช้กระจายพอร์ตการลงทุน และมักติดตาม ราคา Bitcoin ปัจจุบัน เพื่อหาจังหวะซื้อ-ขายที่เหมาะสม

       

      อีกจุดเด่นของ Bitcoin คือความ “จำนวนจำกัด” ที่มีเพียง 21 ล้านเหรียญตลอดกาล ทำให้มีความหายากคล้ายทองคำ การสร้าง Bitcoin เกิดจากการ “ขุด” (Mining) โดยนักขุดจะใช้คอมพิวเตอร์กำลังสูงแก้สมการซับซ้อน เพื่อยืนยันธุรกรรมบนเครือข่าย และได้รับ Bitcoin ใหม่เป็นรางวัล ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างเหรียญใหม่แล้ว การขุดยังช่วยรักษาความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของระบบอีกด้วย

    • Bitcoin (BTC) ทำงานอย่างไร?

      Bitcoin หรือ BTC ทำงานบนเทคโนโลยี บล็อกเชน (Blockchain) ที่เปรียบเหมือนสมุดบัญชีสาธารณะ บันทึกการซื้อขายทุกครั้งไว้ในระบบเดียว ทุกธุรกรรมใหม่จะถูกเพิ่มลงใน “บล็อก” จากนั้นนักขุด (Miners) จะใช้คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงแก้สมการคณิตศาสตร์เพื่อยืนยันความถูกต้องก่อนจะบันทึกลงในบล็อกเชนอย่างถาวร

       

      การถือครอง Bitcoin ทำได้ผ่าน กระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) ที่มีกุญแจส่วนตัว หรือ Private Key ทำหน้าที่เหมือนรหัสผ่านลับเฉพาะตัว หากไม่มีคีย์นี้ จะไม่มีใครสามารถย้ายหรือใช้ Bitcoin ได้เลย ระบบนี้ยังเป็นแบบ กระจายศูนย์ (Decentralized) ไม่มีใครคนเดียวหรือองค์กรใดควบคุมได้ ทำให้ Bitcoin เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่ปลอดภัยและน่าเชื่อที่สุดถือในหมู่นักลงทุน

       

      การโอน Bitcoin สามารถทำได้ง่ายและตรงไปตรงมา ทำได้ระหว่างผู้ใช้โดยไม่ต้องพึ่งธนาคาร เวลาที่ใช้ดำเนินการอาจตั้งแต่ไม่กี่นาทีไปจนถึงราวหนึ่งชั่วโมง ขึ้นอยู่กับปริมาณธุรกรรมในเครือข่าย ทุกวันนี้ระบบของเหรียญยังได้รับการพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ Bitcoin ไม่ได้เป็นเพียงแค่สินทรัพย์ของนักลงทุน แต่ยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการใช้เงินที่ทันสมัย อิสระ และปลอดตัวกลาง จึงไม่น่าแปลกที่หลายคนจะคอยเช็กราคาบิทคอยน์วันนี้ อยู่บ่อย ๆ เพื่อหาช่วงซื้อขายที่เหมาะที่สุด

    • ใครเป็นคนสร้าง Bitcoin (BTC)?

      Bitcoin (BTC) ถูกสร้างขึ้นโดยบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ไม่เปิดเผยตัวตน ภายใต้นามแฝง ซาโตชิ นากาโมโตะ (Satoshi Nakamoto) เปิดตัวครั้งแรกในเดือนมกราคม 2009 พร้อมกับการขุดบล็อกแรกของโลกที่เรียกว่า Genesis Block จุดประสงค์คือทำให้ Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลแบบกระจายศูนย์ ปราศจากการควบคุมจากรัฐบาลหรือองค์กรใด ๆ

       

      วันที่ 3 มกราคม 2009 เป็นก้าวแรกของซาโตชิที่ประสบความสำเร็จในการขุด Genesis Block ซึ่งนับเป็นบล็อกแรกของเครือข่าย Bitcoin เปิดตัวด้วยมูลค่าเริ่มต้นเพียง $0 แต่เมื่อเวลาผ่านไป มูลค่าก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น จนดึงดูดนักขุดและนักลงทุนมากขึ้นเรื่อย ๆ ความต้องการครอบครอง Bitcoin ก็สูงขึ้นตามไปด้วย

       

      Bitcoin Pizza Day: วันที่ Bitcoin ถูกใช้จ่ายในชีวิตจริงเป็นครั้งแรก

      วันที่ 22 พฤษภาคม 2010 มีหนี่งเหตุการณ์ในตำนานได้เกิดขึ้น เมื่อ Laszlo Hanyecz โปรแกรมเมอร์ชาวอเมริกัน ได้ซื้อพิซซ่า 2 ถาดด้วย Bitcoin ในราคามหาศาล 10,000 BTC (ในเวลานั้นมูลค่ายังต่ำมากเมื่อเทียบกับราคาบิทคอยน์วันนี้) เหตุการณ์นี้ถูกเรียกว่า Bitcoin Pizza Day และกลายเป็นสัญลักษณ์ของการใช้ Bitcoin ในชีวิตจริงครั้งแรก และกลายเป็นวันสำคัญประจำปีของชาวคริปโตทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นชาว Bitcoin Maximalist หรือคนใน community ต่างก็ใช้วันนี้เป็นโอกาสมารวมตัวเฉลิมฉลอง แบ่งปันเรื่องราว และระลึกถึงก้าวแรกของการใช้คริปโต

       

      เส้นทางการพัฒนาเครือข่าย Bitcoin

      นับตั้งแต่เปิดตัว เครือข่ายบล็อกเชนของ Bitcoin มีการอัปเกรดอยู่หลายครั้ง เช่น Taproot Update ในปี 2021 ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวให้ธุรกรรม หลังจากที่เคยมีการอัปเดต Segregated Witness (SegWit) ในปี 2017 ซึ่งช่วยปรับโครงสร้างข้อมูลและลดขนาดธุรกรรมบนเครือข่าย โดย Taproot ช่วยยกระดับความปลอดภัยของธุรกรรม Bitcoin ด้วยเทคนิค MAST (Merkelized Abstract Syntax Tree) ที่ซ่อนข้อมูลบางส่วนเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน ซึ่งถือเป็นจุดพัฒนาสำคัญที่ทำให้เครือข่ายแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ และยังสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่ติดตาม ราคา Bitcoin จนถึงทุกวันนี้

       

      Lightning Network (เครือข่ายไลต์นิง) ของ Bitcoin

      Lightning Network เป็นอีกขั้นของการพัฒนา Bitcoin เป็นระบบชำระเงินแบบเลเยอร์ 2 ที่ต่อยอดจากบล็อกเชนหลัก เป้าหมายคือการพัฒนา Scalability ที่ช่วยให้การทำธุรกรรมเร็วขึ้นและมีค่าธรรมเนียมถูกลง เหมาะกับการโอนบ่อย ๆ หรือโอนจำนวนเล็ก ๆ โดยไม่ต้องรอคิวบนบล็อกเชนหลักนาน ๆ

       

      การอัปเกรด Taproot ของ Bitcoin

      Taproot ถือเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปีของ Bitcoin เปิดใช้งานเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2021 ที่บล็อก 709,632 การอัปเดตนี้ช่วยให้ทำธุรกรรมได้เร็วขึ้น ประหยัดค่าธรรมเนียม โดยเฉพาะธุรกรรมแบบหลายลายเซ็น (Multi-Signature) แถมยังเพิ่มความเป็นส่วนตัว ทำให้ธุรกรรมซับซ้อน เช่นการซื้อ-ขาย บนระบบ Lightning Network ทำได้ง่ายขึ้น เหมือนธุรกรรมทั่วไป และปลอดภัยกว่าเดิม

       

      Bitcoin Ordinals และ NFT

      Bitcoin Ordinals หรือที่รู้จักกันว่า Bitcoin NFT คือโทเคนดิจิทัลแบบ Non-Fungible Token (NFT) ที่อยู่บนบล็อกเชนของ Bitcoin โดยตรง เปิดตัวครั้งแรกในเดือนมกราคม 2023 พร้อมมาตรฐานโทเคน BRC-20 และได้รับความสนใจอย่างมากจากวงการคริปโต

      วิธีการสร้าง Bitcoin Ordinals คือการฝังข้อมูลลงใน satoshi ซึ่งเป็นหน่วยย่อยที่สุดของ Bitcoin (1 satoshi = 0.00000001 BTC) โดยแต่ละ satoshi จะมีรหัสเฉพาะตัวเหมือน “หมายเลขซีเรียล” และสามารถใส่ข้อมูลได้หลายรูปแบบ เช่น ข้อความ ภาพ เสียง หรือวิดีโอ ทำให้กลายเป็น NFT ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และอยู่บนบล็อกเชน Bitcoin อย่างถาวร

       

      การอนุมัติ Spot Bitcoin ETF

      ในเดือนมกราคม 2024 ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีได้ก้าวสู่หมุดหมายสำคัญ เมื่อสหรัฐฯ อนุมัติการซื้อขาย Spot Bitcoin ETF ซึ่งเป็นกองทุนที่ให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนใน Bitcoin ได้โดยไม่ต้องถือครองเหรียญจริง ทำให้ทั้งนักลงทุนรายใหญ่ (สถาบัน) และรายย่อยสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ง่ายขึ้น

      การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจดึงเม็ดเงินจำนวนมากเข้าสู่ตลาด และมีโอกาสผลักดันราคาบิทคอยน์วันนี้และในอนาคตให้ปรับตัวสูงขึ้นกว่าเดิม

       

      Bitcoin Halving

      Bitcoin Halving คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุก ๆ 4 ปี ซึ่งระบบจะลดรางวัลของนักขุดลงครึ่งหนึ่ง ทำให้จำนวน Bitcoin ที่เข้าสู่ตลาดน้อยลง เกิดความหายาก และมักจะเป็นช่วงที่ราคามีการขยับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

      ตั้งแต่ครั้งแรกในปี 2012 จนถึง 2016, 2020 และล่าสุดปี 2024 เหตุการณ์นี้มักตามมาด้วยการปรับขึ้นของราคาอย่างต่อเนื่อง หลายคนที่ติดตามราคาบิทคอยน์วันนี้ มักเฝ้ารอและให้ความสำคัญกับ Halving รอบถัดไปในปี 2028 ว่าจะสร้างคลื่นราคาครั้งใหม่ได้หรือไม่

    • Bitcoin (BTC) ใช้ทําอะไรได้บ้าง?

      เนื่องจากเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีความยืดหยุ่นสูง ที่ผ่านมา Bitcoin จึงถูกนำไปใช้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น:

       

      1. ซื้อสินค้าและบริการ: Bitcoin สามารถนำไปใช้จ่ายค่าสินค้าและบริการได้ทั้งในร้านค้าออนไลน์และหน้าร้านในหลาย ๆ แบรนด์ เช่น Microsoft หรือร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดบางแห่ง รวมถึงในอีคอมเมิร์ซที่รองรับการซื้อขายข้ามประเทศ ซึ่งทั้งสะดวกและไม่ต้องพึ่งระบบธนาคาร

      2. โอนเงินข้ามประเทศ: Bitcoin ได้รับความนิยมในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ เพราะรวดเร็ว ค่าธรรมเนียมถูกกว่า ใช้ได้แม้ในพื้นที่ที่เข้าถึงธนาคารยาก

      3. ลงทุนและเก็งกำไร: หลายคนมองว่า Bitcoin เป็นสินทรัพย์เก็บมูลค่า คล้ายทองคำ ขณะที่นักเทรดใช้ความผันผวนของราคาเพื่อทำกำไร ด้วยจำนวนจำกัดและความเป็นอิสระจากหน่วยงานกลาง Bitcoin จึงเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในระยะยาว

      4. วงการเกมและความบันเทิงออนไลน์: Bitcoin ถูกนำมาใช้มากขึ้นทั้งในรูปแบบการซื้อเกม และการเล่นเกมแบบโมเดล Play-to-Earn รวมถึงแพลตฟอร์มความบันเทิงบางแห่งที่รับ Bitcoin ในการเดิมพันหรือบริการอื่น ๆ ด้วยความรวดเร็วและความเป็นส่วนตัว

      5. การบริจาค: ทุกวันนี้ Bitcoin ไม่ได้ใช้แค่ซื้อขายหรือเก็งกำไร แต่ยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางการทำบุญและสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคม หลายองค์กรการกุศลทั่วโลกเปิดรับการบริจาคด้วย Bitcoin ทำให้การโอนเงินไปช่วยเหลือผู้คนในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดทางการเงินเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และรวดเร็ว แถมบางครั้งยังสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ด้วย

      6. ซื้อและถือครอง (HODL): วิธีง่าย ๆ คือซื้อแล้วเก็บไว้รอราคาขึ้น แม้จะมีความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด บางคนใช้เครื่องมืออย่าง Spot Trading, Margin Trading หรือ Futures Trading เพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไร และขายออกเมื่อถึงจังหวะที่เหมาะสม

      7. สร้างรายได้แบบ Passive Income: วิธีที่น่าสนใจอีกทางคือการนำ BTC ที่ถืออยู่ไปปล่อยกู้เพื่อรับดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ช่วยต่อยอดเงินทุนให้เติบโตได้อย่างสะดวก เปลี่ยนบิตคอยน์ให้ทำงานแทนและสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติม

    • Tokenomics ของ Bitcoin (BTC) เป็นอย่างไร?

      บิตคอยน์มีเพดานอุปทานสูงสุดที่ 21 ล้านเหรียญ หมายความว่าจะไม่มีวันมี BTC เกิน 21 ล้านเหรียญ ทำให้บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่มีความขาดแคลน ณ ปี 2024 มีการขุดบิตคอยน์ไปแล้วราว 19.6 ล้านเหรียญ เหลืออีกเพียงส่วนน้อยที่จะถูกปล่อยเข้าสู่วงจรหมุนเวียน

       

      ประมาณทุก ๆ สี่ปี รางวัลสำหรับการขุดบล็อกใหม่จะถูก “ลดลงครึ่งหนึ่ง” หรือที่เรียกว่าเหตุการณ์ “Halving” ซึ่งทำให้อัตราการเกิดเหรียญใหม่ลดลง และยิ่งตอกย้ำความขาดแคลนของบิตคอยน์ การ Halving ครั้งล่าสุดที่กำหนดไว้ในเดือนเมษายน 2024 ได้ลดรางวัลขุดจาก 6.25 BTC เหลือ 3.125 BTC ต่อบล็อก

       

      กระบวนการสร้างบิตคอยน์เป็นแบบกระจายศูนย์ (decentralized) ใครก็ตามที่มีฮาร์ดแวร์ที่เหมาะสมสามารถเข้าร่วมขุดได้ นักขุดจะได้รับบิตคอยน์ใหม่เป็นรางวัลจากการยืนยันธุรกรรมและบันทึกลงบล็อกเชน ธรรมชาติแบบกระจายศูนย์นี้ช่วยให้เครือข่ายมั่นคงปลอดภัย และป้องกันไม่ให้มีหน่วยงานใดควบคุมบิตคอยน์ได้เพียงผู้เดียว

       

      แม้บิตคอยน์จะ “มีเงินเฟ้อ” ในเชิงเทคนิคเพราะยังมีเหรียญถูกขุดออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่เหตุการณ์ halving จะค่อย ๆ ชะลออัตราเงินเฟ้อนี้ลง จนกระทั่งหยุดในราวปี 2140 เมื่อขุดครบ 21 ล้านเหรียญแล้ว เงินเฟ้อที่ถูกควบคุมได้เช่นนี้เป็นคุณสมบัติสำคัญของโทเคโนมิกส์ของบิตคอยน์ ซึ่งช่วยรักษามูลค่าในระยะยาว

    คำถามที่พบบ่อย

    • ราคาบิทคอยน์วันนี้ อยู่ที่เท่าไหร่?

      ราคาบิตคอยน์ผันผวนค่อนข้างมาก เพราะขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นอุปสงค์ในตลาด มุมมองของนักลงทุน ข่าวกฎระเบียบ และสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ดังนั้นถ้าอยากรู้มูลค่าปัจจุบัน ควรติดตามความเคลื่อนไหวของตลาด และหมั่นเช็กกราฟ Bitcoin (BTC) อยู่เสมอ

       

      การลงทุนในบิตคอยน์ช่วยกระจายความเสี่ยงให้พอร์ต เพิ่มโอกาสเติบโต และมักถูกใช้เป็นที่พักเงินในช่วงเศรษฐกิจไม่นิ่ง ด้วยเหตุผลหลัก ๆ ดังนี้

       

      1. ความขาดแคลนและอุปทานจำกัด: บิตคอยน์มีจำนวนสูงสุด 21 ล้านเหรียญเท่านั้น อุปทานที่ตายตัวทำให้เกิดความขาดแคลน ซึ่งอาจหนุนราคาเมื่อความต้องการเพิ่มขึ้น ต่างจากเงินเฟียตที่พิมพ์เพิ่มได้ บิตคอยน์จึงถูกมองว่าเป็น “สินทรัพย์แข็ง” คล้ายทองคำ

      2. การกระจายศูนย์ (Decentralization): เครือข่ายไม่ได้ถูกควบคุมโดยหน่วยงานหรือรัฐบาลใด ลดความเสี่ยงจากนโยบายธนาคารกลาง เช่น เงินเฟ้อหรือการแทรกแซงค่าเงิน นักลงทุนจึงมีอิสระและความปลอดภัยมากขึ้น เพราะถือครองและควบคุมสินทรัพย์ได้เอง ไม่ต้องพึ่งสถาบันการเงิน

      3. กันเงินเฟ้อ: บิตคอยน์มักถูกใช้เป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ เมื่อค่าเงินดั้งเดิมอ่อนลงจากการอัดฉีดเงิน อุปทานคงที่ของบิตคอยน์ช่วยรักษาอำนาจซื้อ จึงน่าสนใจในช่วงที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน

      4. สภาพคล่องสูง: เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ซื้อขายได้ง่ายที่สุด มีตลาดทั่วโลก และแปลงกลับเป็นเงินสกุลปกติหรือคริปโตอื่น ๆ ได้สะดวก

      5. การดำเนินงานในอดีตโดดเด่น: แม้ราคาจะแกว่งแรง แต่ในภาพรวมระยะยาว บิตคอยน์ให้ผลตอบแทนดีและฟื้นตัวจากรอบขาลงได้หลายครั้ง

      6. การยอมรับจากสถาบันเพิ่มขึ้น: การมาของ Spot Bitcoin ETF และความสนใจจากสถาบันการเงิน ทำให้บิตคอยน์เข้าใกล้ระบบการเงินดั้งเดิมมากขึ้น เสริมความน่าเชื่อถือและอาจเป็นแรงหนุนด้านราคา

      7. ความปลอดภัยและโปร่งใส: ธุรกรรมถูกบันทึกบนบล็อกเชนที่โปร่งใสและแก้ย้อนหลังไม่ได้ จึงยากต่อการปลอมแปลง ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและคงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือของเครือข่ายบิตคอยน์

    • แนวโน้ม Bitcoin (BTC) วันนี้

      การทำนายราคาส่วนใหญ่มักจะดูจากกราฟ Bitcoin (BTC) ซึ่งด้วยธรรมชาติของตลาดที่ผันผวน ทำให้การวิเคราะห์แนวโน้มแบบแม่นเป๊ะทำได้ยาก แต่ยังพอ “อ่านเกม” ได้จากปัจจัยที่ขับเคลื่อนราคาและความผันผวนหลัก ๆ ดังนี้: 

       

      1. อุปสงค์/อุปทานของ BTC: บิตคอยน์มีเพดานอุปทานที่ 21 ล้านเหรียญ จึงเกิดความขาดแคลน เมื่อความต้องการเพิ่ม โดยเฉพาะช่วง Bitcoin halving ที่ลดอัตราการเกิดเหรียญใหม่ มักหนุนให้ราคาขยับขึ้นเมื่อเทียบกับ USD

      2. สถานการณ์ตลาด (Market Sentiment): ข่าวเชิงบวกอย่างการอนุมัติ Bitcoin ETF หรือการยอมรับจากสถาบันใหญ่ ช่วยเพิ่มสภาพคล่องและผลักดันราคา ตรงกันข้าม ข่าวลบหรือการเข้มงวดด้านกฎระเบียบมักกดดันให้ราคาถอย และส่งผลต่อกราฟ Bitcoin (BTC) อย่างเห็นได้ชัด

      3. ทิศทางกฎระเบียบ: การเปลี่ยนแปลงนโยบายในตลาดหลัก ๆ เช่น สหรัฐฯ ส่งผลต่อราคาอย่างชัดเจน ตัวอย่างคือการอนุมัติ spot Bitcoin ETF ในปี 2024 ที่ช่วยดึงดีมานด์และยกระดับมุมมองต่อราคา BTC

      4. การแข่งขันจากเหรียญคริปโตอื่น: เมื่อ altcoins ได้กระแสและดึงเม็ดเงินบางส่วนออกไป สัดส่วนการครองตลาด (dominance) ของ Bitcoin อาจลดลง และสะเทือนต่อราคาได้

      5. การอัปเกรดเทคโนโลยี: พัฒนาการของโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การปรับปรุง Lightning Network ทำให้ใช้งานได้คล่องตัวขึ้น เพิ่มคุณค่าการใช้งาน และช่วยหนุนภาพรวมมูลค่า

      6. ผลของสื่อและโซเชียลมีเดีย: กระแสข่าวและบทสนทนาออนไลน์เปลี่ยนมุมมองนักลงทุนได้รวดเร็ว ราคาอาจเหวี่ยงแรงตามเหตุการณ์ระดับโลกในระยะสั้น

    • การขุด Bitcoin (Mining) คืออะไร?

      การขุดบิตคอยน์คือการตรวจสอบและเพิ่มธุรกรรมใหม่ลงในบล็อกเชน เป็นกลไกที่ทำให้เครือข่ายปลอดภัยและน่าเชื่อถือ แต่ต้องใช้เงินลงทุนด้านฮาร์ดแวร์และค่าไฟฟ้าพอสมควร การทำงานโดยสรุปเป็นแบบนี้

       

      1. ขุดเพื่อสร้างบล็อก: นักขุดใช้คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงแก้สมการที่ซับซ้อน ใครทำสำเร็จก่อนจะได้สร้างบล็อกใหม่และต่อเข้าบล็อกเชน ช่วยยืนยันความถูกต้องของธุรกรรมและป้องกันเครือข่ายจากภัยทุจริต

      2. รับรางวัล: เมื่อขุดบล็อกสำเร็จ จะได้ “รางวัลบล็อก” เป็นบิตคอยน์ที่เพิ่งถูกสร้างขึ้น ณ เมษายน 2024 รางวัลอยู่ที่ 3.125 BTC ต่อบล็อก และนี่คือวิธีที่เหรียญใหม่เข้าสู่ระบบ

      3. การแข่งขันและความยาก: การขุดมีผู้เล่นทั่วโลก แข่งขันกันแก้บล็อกถัดไป ระบบจะปรับ “ความยาก” โดยอัตโนมัติประมาณทุกสองสัปดาห์ เพื่อให้เฉลี่ยมีบล็อกใหม่ทุก ๆ ประมาณ 10 นาที

      4. การใช้พลังงาน: ต้องใช้ไฟฟ้ามากในการขับเคลื่อนฮาร์ดแวร์เฉพาะทางอย่าง ASIC หลายรายจึงตั้งเครื่องในพื้นที่ที่ค่าไฟถูก เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสทำกำไร

    • Bitcoin Halving ครั้งถัดไปเมื่อไห่ร?

      เหตุการณ์ Bitcoin halving ครั้งถัดไปคาดว่าจะเกิดช่วงเมษายน 2028 ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในเมษายน 2024 ซึ่งปรับรางวัลต่อบล็อกจาก 6.25 BTC เหลือ 3.125 BTC เหตุการณ์นี้ทำให้อัตราการเกิดเหรียญใหม่ช้าลง เพิ่มความขาดแคลนของบิตคอยน์และอาจมีผลต่อราคา สำหรับปี 2028 รางวัลจะลดลงอีกเป็น 1.5625 BTC ต่อบล็อก ผู้เชี่ยวชาญจึงมักแนะนำให้นักลงทุนสังเกตุการณ์ความเคลื่อนไหวผ่านกราฟ Bitcoin (BTC) อยู่เสมอ

    • Bitcoin ETF คืออะไร?

      Bitcoin ETF (Exchange-Traded Fund) คือกองทุนที่เปิดทางให้ลงทุนในบิตคอยน์โดยไม่ต้องซื้อหรือเก็บคริปโตด้วยตัวเอง เพียงซื้อหน่วยกองทุนที่ติดตามราคาบิตคอยน์ ซึ่งซื้อขายได้บนตลาดหลักทรัพย์เหมือนหุ้น เหมาะกับผู้ที่คุ้นกับตลาดการเงินแบบดั้งเดิมและอยากเข้าถึงบิตคอยน์ด้วยวิธีที่ง่ายกว่า

       

      จุดเด่นของ Bitcoin ETF คือกรอบกำกับดูแลที่ชัดเจน ซื้อขายสะดวก และช่วยใส่บิตคอยน์เข้าไปในพอร์ตที่กระจายความเสี่ยงได้ โดยไม่ต้องจัดการกระเป๋าเงินดิจิทัลหรือการดูแลสินทรัพย์เอง

       

      อ่านเพิ่มเติม: ประเด็นสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับ Bitcoin ETF

    • Bitcoin เหรียญสุดท้ายจะถูกขุดเมื่อไหร่?

      คาดว่าเหรียญสุดท้ายจะถูกขุดราวปี 2140 ตามดีไซน์ที่จำกัดอุปทานสูงสุดไว้ที่ 21 ล้านเหรียญ ปัจจุบันขุดไปแล้วราว 19.6 ล้านเหรียญ เหลือไม่ถึง 2 ล้านเหรียญที่จะทยอยถูกขุดในศตวรรษหน้า หลังจากขุดครบแล้ว นักขุดจะไม่ได้รับเหรียญใหม่เป็นรางวัล แต่จะพึ่งรายได้จากค่าธรรมเนียมธุรกรรมแทน ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเศรษฐศาสตร์เครือข่ายบิตคอยน์

    • วิธีลงทุนใน Bitcoin มีอะไรบ้าง?

      ถ้าอยากเริ่มลงทุนใน Bitcoin และมองหาแนวทางที่เหมาะกับตัวเอง ลองดูทางเลือกหลัก ๆ เหล่านี้ แล้วค่อยเลือกให้เข้ากับสไตล์และระดับความเสี่ยงที่รับไหว

       

      ซื้อแล้วถือ

      วิธีที่ตรงไปตรงมาที่สุดคือซื้อบิตคอยน์แล้วถือยาว หวังทำกำไรเมื่อราคาขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงหากตลาดปรับลงแรง ช่วงที่มองว่าทิศทางไม่ดีอาจพิจารณาขายออกได้ สำหรับคนที่กำลังลังเลว่าจะซื้อ Bitcoin (BTC) ที่ไหนดี KuCoin Thailand มีทั้งข้อมูลทั้งราคาบิทคอยน์วันนี้ อัปเดตแบบเรียลไทม์ ทั้ง Spot, Margin และ Futures และอีกมากมายให้ใช้เพื่อปรับกลยุทธ์และกระจายวิธีทำผลตอบแทนได้ไม่ยาก



      ลงทุนผ่านทรัสต์การลงทุน

      สำหรับผู้ที่อยากได้การเปิดรับบิตคอยน์แบบอ้อม อาจเลือกทรัสต์จากผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้ เช่น Grayscale Bitcoin Trust (GBTC) ซึ่งซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์ ช่วยถือครองผ่านหน่วยทรัสต์แทนการถือเหรียญจริง ทั้งนี้ ทรัสต์มักซื้อขายที่พรีเมียมหรือดิสเคานต์เมื่อเทียบกับสินทรัพย์อ้างอิง และโดยทั่วไปมีต้นทุนสูงกว่าการซื้อบนกระดานคริปโตโดยตรง

    • ใช้ Bitcoin ซื้ออะไรได้บ้าง?

      นอกเหนือจากการเทรดในตลาดคริปโต ทุกวันนี้ Bitcoin ถูกใช้จ่ายในธุรกิจที่หลากหลายขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเครือข่าย Lightning ของ Bitcoin ช่วยให้จ่ายค่าสินค้าและบริการได้ไหลลื่นทั้งออนไลน์และออฟไลน์เหมือนกับการซื้อ-ขายสกุลเงินอื่น ๆ 

       

      ร้านค้าและบริการออนไลน์

      บิตคอยน์ไม่ได้อยู่แค่โลกดิจิทัลอีกต่อไป ทุกวันนี้ เราสามารถใช้เหรียญช้อปบนอีคอมเมิร์ซ จองทริปผ่านเว็บท่องเที่ยว ซื้อบริการออนไลน์ จ่ายค่าอาหารที่ร้านที่รับคริปโต หรือสั่งเดลิเวอรีก็ทำได้ นอกจากนี้ยังมีผู้ให้บริการภายนอกที่ช่วยสั่งของบน Amazon ด้วย BTC ได้ด้วย ซึ่งทั้งหมดช่วยขยายทางเลือกการช้อปออนไลน์ให้กว้างขึ้นไปอีก

       

      โชว์รูมรถและรถหรู

      แม้ Tesla จะหยุดรับบิตคอยน์ไปแล้ว แต่ดีลเลอร์รถหลายแห่งในสหรัฐฯ ยังเปิดให้จ่ายด้วย BTC อยู่ สามารถซื้อรถ (โดยเฉพาะรถหรู) กับบางโชว์รูมที่รองรับได้

       

      อสังหาริมทรัพย์

      วงการอสังหาฯ เริ่มเปิดรับบิตคอยน์เป็นทางเลือกการชำระ แม้ยังไม่แพร่หลายมาก แต่ก็มีกรณีซื้อขายด้วย BTC ให้เห็นอยู่ สะท้อนการยอมรับที่เพิ่มขึ้นสำหรับธุรกรรมมูลค่าสูง และมีแนวโน้มที่โอกาสซื้อขายด้วยคริปโตจะขยายตัวต่อไป

       

    • ราคาสูงสุดตลอดกาล (All-Time High) ของ Bitcoin

      ราคาสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 4,037,513.32 บาท ส่วนราคาบิทคอยน์วันนี้ ต่ำกว่าจุดสูงสุดราว 4.41%

    • ราคาต่ำสุดตลอดกาล (All-Time Low) ของ Bitcoin

      ราคาต่ำสุดตลอดกาลคือ 1.57814240 บาท ส่วนราคาบิทคอยน์วันนี้ สูงกว่าจุดนั้นประมาณ 244,552,048.81%

    • จำนวนเหรียญ Bitcoin ทั้งหมดวันนี้

      ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2025 บิตคอยน์หมุนเวียนอยู่ 19,906,646 BTC จากอุปทานสูงสุด 21,000,000 BTC

      คิดเป็นประมาณ 94.79% ของทั้งหมด เหลือให้ขุดออกมาอีกราว 1,093,354 BTC (ประมาณ 5.21%)

    • วิธีเก็บบิทคอยน์

      การเก็บบิทคอยน์ทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความสะดวกและระดับการควบคุมความปลอดภัยที่ผู้ใช้งานต้องการ หากต้องการความสะดวก สามารถเก็บเหรียญไว้ในบัญชีซื้อขายของตนบนแพลตฟอร์ม KuCoin Thailand ได้ ซึ่งเป็นการเก็บแบบออนไลน์ที่เข้าถึงได้ง่าย แต่หากต้องการถือครองสินทรัพย์ด้วยตนเอง ก็สามารถเลือกใช้วอลเล็ตแบบ self-custody ได้ ทั้งในรูปแบบแอปมือถือ เบราว์เซอร์ หรืออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์วอลเล็ตที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเก็บรักษาคีย์ส่วนตัวผู้ใช้งานควรเลือกวิธีเก็บรักษาที่เหมาะสมกับตนเอง เพื่อให้ทั้งความสะดวกและความปลอดภัยไปด้วยกัน

    • วิธีแปลง Bitcoin เป็นเงินสด

      นักลงทุนสามารถแปลงบิตคอยน์ (BTC) เป็นเงินบาททำได้รวดเร็วผ่าน Fast Trade ของ KuCoin Thailand เลือกแปลงเป็นสกุลเงินท้องถิ่นได้ในไม่กี่คลิก แต่ต้องทำการ ยืนยันตัวตน (Identity Verification) ให้ครบก่อน เพื่อใช้งานครบทุกฟีเจอร์และวงเงินที่ต้องใช้ ทั้งหมดนี้ใช้เวลาไม่นาน แค่ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนกับค่าธรรมเนียมให้เรียบร้อยก่อนกดยืนยันก็พอ

    • ราคาสูงสุดตลอดกาลของ Bitcoin (BTC) คือเท่าไร?

      ราคาสูงสุดตลอดกาลของ Bitcoin (BTC) คือ 126,198.07 โดยราคาปัจจุบันของ BTC ลดลง 2,693.46% จากราคาสูงสุดตลอดกาล

    • ราคาต่ำสุดตลอดกาลของ Bitcoin (BTC) คือเท่าไร?

      ราคาต่ำสุดตลอดกาลของ Bitcoin (BTC) คือ 0.05 ราคาปัจจุบันของ BTC เพิ่มขึ้น 7,246,753,728.74% จากราคาต่ำสุดตลอดกาล

    • มี Bitcoin (BTC) หมุนเวียนอยู่เท่าใด?

      ณ วันที่ 19 10 2025 มี 19,936,690 BTC ที่หมุนเวียนอยู่ โดย BTC มีอุปทานสูงสุด 21,000,000

    • ฉันจะจัดเก็บ Bitcoin (BTC) ได้อย่างไร?

      คุณสามารถจัดเก็บ Bitcoin อย่างปลอดภัยในวอลเล็ตที่มีการดูแลรักษาบนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน KuCoin Thailand โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการจัดการคีย์ส่วนตัวของคุณ วิธีอื่นๆ ในการจัดเก็บ BTC ได้แก่ การใช้วอลเล็ตที่คุณเป็นผู้ดูแลด้วยตนเอง (บนเว็บเบราว์เซอร์, อุปกรณ์มือถือ, หรือคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป/แล็ปท็อป), ฮาร์ดแวร์วอลเล็ต, บริการดูแลรักษาคริปโตของบุคคลที่สาม, หรือวอลเล็ตกระดาษ