img

บิทคอยน์คืออะไร? คู่มือครบ อ่านจบเริ่มต้นลงทุนบิทคอยน์ได้เลย

2025/10/16 07:45:02

Custom

เรียนรู้บิทคอยน์คืออะไร คู่มือครบ จบในบทความเดียว พร้อมแนวทางและวิธีลงทุนบิทคอยน์สำหรับมือใหม่เข้าใจง่าย

บิทคอยน์คืออะไร และทำไมคนถึงสนใจ?

บิทคอยน์ (Bitcoin หรือ BTC) คือสกุลเงินดิจิทัลตัวแรกของโลกที่สร้างขึ้นในปี 2009 ทำงานบนระบบ บล็อกเชน (Blockchain) ซึ่งเป็นบัญชีแยกประเภทดิจิทัลที่ทุกคนสามารถตรวจสอบได้และไม่สามารถแก้ไขย้อนหลัง ทำให้บิทคอยน์มีความโปร่งใสและปลอดภัย 

จุดเด่นของบิทคอยน์คือการเป็น สินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ขึ้นกับธนาคารหรือรัฐบาล รวมถึงมีจำนวนจำกัดเพียง 21 ล้านเหรียญทำให้บางคนมองว่าเป็นเครื่องมือเก็บมูลค่าเหมือนทองคำ 

นอกจากนี้บิทคอยน์ยังเป็นที่สนใจของนักลงทุนและผู้ใช้งานทั่วโลก เนื่องจากสามารถใช้ในการ โอนเงินข้ามประเทศได้รวดเร็ว และเป็นสื่อกลางสำหรับการลงทุนหรือเก็งกำไร ด้วยความผันผวนของราคา ทำให้บิทคอยน์กลายเป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก

 

ใครเป็นผู้สร้างบิทคอยน์ และมีที่มาจากไหน?

ผู้สร้าง Bitcoin คือบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ใช้นามแฝงว่า “Satoshi Nakamoto” ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังคงเป็นปริศนา ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าเขาคือใครหรือมาจากประเทศใด

ผู้สร้างบิทคอยน์ คือบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ใช้นามแฝงว่า Satoshi Nakamoto จนถึงปัจจุบันยังไม่มีใครทราบตัวตนที่แท้จริงของเขาอย่างแน่ชัดว่ามาจากประเทศใด 

สิ่งที่ทราบคือ Satoshi ได้เผยแพร่ Whitepaper ของ Bitcoin ในปี 2008 โดยอธิบายแนวคิดของเงินดิจิทัลแบบ Peer-to-Peer ที่ไม่ต้องพึ่งธนาคารกลางและสามารถโอนเงินข้ามประเทศได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย 

หลังจากนั้นในปี 2009 บิทคอยน์ถูกเปิดตัวเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ทุกคนสามารถใช้งานได้ ซึ่งแนวคิดของ Satoshi กลายเป็นจุดเริ่มต้นของโลกคริปโตเคอร์เรนซี และบล็อกเชนยุคใหม่ที่เปลี่ยนวิธีคิดเรื่องการเงินและการลงทุนทั่วโลก

จุดเด่นสำคัญของบิทคอยน์ที่ควรรู้

บิทคอยน์มีคุณสมบัติเด่นหลายอย่างที่แตกต่างจากเงินแบบดั้งเดิม ได้แก่

  1. ไม่ได้ขึ้นกับธนาคารหรือรัฐบาล: ผู้ถือบิทคอยน์สามารถโอนเงินเองแบบเพียร์ทูเพียร์โดยตรงทั่วโลก โดยไม่ต้องผ่านธนาคารกลางหรือหน่วยงานรัฐบาลใดๆ ซึ่งจะช่วยลดความล่าช้าและค่าธรรมเนียมการโอนข้ามประเทศ

  2. จำนวนจำกัด: บิทคอยน์มีจำนวนจำกัดสูงสุดเพียง 21 ล้านเหรียญ ทำให้มีความหายากตามหลักอุปสงค์และอุปทาน แตกต่างจากเงินสดทั่วไปที่ธนาคารสามารถพิมพ์เพิ่มได้ตามนโยบายการเงิน

  3. ความโปร่งใส: ธุรกรรมทุกครั้งถูกบันทึกบน Blockchain ซึ่งผู้ใช้ทุกคนสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ ทำให้ลดความเสี่ยงการโดนโกง ปลอมแปลง หรือทุจริต และเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน

  4. ความปลอดภัยสูง: ระบบ Blockchain ของบิทคอยน์มีความปลอดภัยสูงมาก เพราะแต่ละธุรกรรมจะเชื่อมโยงกัน ทำให้ไม่สามารถแก้ไขย้อนหลังได้ และใช้เทคนิคการเข้ารหัสที่ซับซ้อน ป้องกันการโจรกรรมออนไลน์

  5. โอนเงินข้ามประเทศได้รวดเร็ว: การโอนบิทคอยน์ไปต่างประเทศสามารถทำได้ภายในไม่กี่นาทีหรือไม่กี่ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับค่าธรรมเนียมที่จ่ายโดยไม่ต้องผ่านธนาคาร ซึ่งสะดวกและประหยัดกว่าการโอนเงินระหว่างประเทศด้วยวิธีดั้งเดิม

Bitcoin vs เงินสดทั่วไป

คุณสมบัติ

Bitcoin (BTC)

เงินสดทั่วไป

การควบคุม

ไม่ขึ้นกับธนาคารหรือรัฐบาล ผู้ถือควบคุมเอง

ขึ้นกับธนาคารกลางและรัฐบาล

จำนวนจำกัด

21 ล้านเหรียญ สร้างความหายากและเก็บมูลค่า

สามารถพิมพ์หรือออกได้ตามนโยบายการเงิน

ความโปร่งใส

ตรวจสอบธุรกรรมได้บน Blockchain ทุกคนเห็นข้อมูล

ตรวจสอบได้ยาก ต้องพึ่งธนาคารหรือหน่วยงาน

ความปลอดภัย

ปลอดภัยสูง ป้องกันการแก้ไขย้อนหลังและปลอมแปลง

เสี่ยงต่อการปลอมแปลง สูญหาย หรือถูกขโมย

การโอนเงินระหว่างประเทศ

โอนเร็ว ภายในไม่กี่นาทีหรือชั่วโมง ไม่มีธนาคารกลาง

ต้องผ่านธนาคาร ใช้เวลานาน และค่าธรรมเนียมสูง

 

มูลค่าของบิทคอยน์เกิดจากอะไร?

ราคาของบิทคอยน์หลักๆ แล้วเกิดจากอุปสงค์และอุปทานในตลาด ซึ่งหมายความว่าหากนักลงทุนและผู้ใช้งานจำนวนมากต้องการซื้อบิทคอยน์ ราคาก็จะสูงขึ้น 

ในทางกลับกัน หากมีการขายออกมาก ราคาก็อาจลดลง นอกจากนี้ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ก็มีผลต่อราคาเช่นกัน

ปัจจัยสำคัญที่กำหนดมูลค่าบิทคอยน์ ได้แก่:

  1. มีจำนวนจำกัด: มีจำนวนสูงสุดเพียง 21 ล้านเหรียญ 

  2. กลไก Halving: การขุดเหรียญใหม่ที่จำนวนจะลดลงตามรอบ ทำให้มูลค่าอาจเพิ่มขึ้นตามความต้องการ

  3. การยอมรับและการใช้งานจริง: ใช้โอนเงินข้ามประเทศ ซื้อสินค้า ลงทุนดิจิทัล หรือเก็งกำไร

  4. ข่าวสารและการตัดสินใจของสถาบันใหญ่ๆ: การประกาศนโยบาย การลงทุนของสถาบันต่างๆ  หรือกฎหมายใหม่ต่างส่งผลต่อความเชื่อมั่นและราคา

ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ บิทคอยน์จึงถูกเรียกว่า “ทองคำดิจิทัล” เพราะมีปริมาณจำกัด สามารถเก็บมูลค่า และเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงเงินเฟ้อ แต่ต่างจากทองตรงที่ บิทคอยน์สามารถโอนและเข้าถึงได้แบบดิจิทัลทั่วโลก หากใครสนใจมาลองเช็ก ราคา Bitcoin วันนี้ ได้เลย 

บิทคอยน์เล่นยังไง และเริ่มต้นลงทุนบิทคอยน์อย่างไร

ขุดบิทคอยน์ (Bitcoin Mining)

การขุดบิทคอยน์เป็นกระบวนการที่ใช้พลังการประมวลผลของคอมพิวเตอร์หรือเครื่องขุดเฉพาะ (ASIC) เพื่อแก้สมการทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบยืนยันธุรกรรมบนเครือข่ายบิทคอยน์ เมื่อแก้สมการสำเร็จ ผู้ขุดจะได้รับรางวัลเป็นบิทคอยน์ใหม่ 

แม้ว่าการขุดบิทคอยน์จะมีศักยภาพสร้างรายได้ แต่ก็มีข้อจำกัดสำคัญคือ ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าสูงและอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถแข่งขันกับผู้ขุดรายอื่นๆ ได้ ดังนั้นการลงทุนในอุปกรณ์ขุดและค่าไฟฟ้าจึงเป็นอีกสิ่งที่ต้องคำนวณให้รอบคอบ

นอกจากนี้ วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีความรู้ด้านเทคนิคและสามารถลงทุนในอุปกรณ์ขุดได้ เพราะต้องเข้าใจการตั้งค่าเครื่องขุด การดูแลรักษา และการเลือก Mining Pool เพื่อให้การขุดมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากที่สุด

ซื้อขายบิทคอยน์ผ่านแพลตฟอร์ม Exchange

สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการลงทุนในอุปกรณ์ขุด การซื้อขายบิทคอยน์ผ่านแพลตฟอร์ม Exchange เป็นวิธีที่สะดวกและง่ายกว่ามาก

แพลตฟอร์มเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นตลาดกลางให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อขายบิทคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ได้ทันที ข้อดีของวิธีนี้คือไม่ต้องมีความรู้ทางเทคนิคในการขุด และสามารถลงทุนด้วยเงินจำนวนตามที่ต้องการ

สำหรับนักลงทุนในประเทศไทย KuCoin Thailand เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม Exchange ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยระบบที่ใช้งานง่าย รองรับการซื้อขายบิทคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลหลายชนิด พร้อมค่าธรรมเนียมที่เหมาะสม 

การสมัครใช้งานและเริ่มต้นลงทุนกับ KuCoin Thailand ก็ทำได้ทันที ทำให้มือใหม่สามารถเริ่มลงทุนบิทคอยน์ได้อย่างรวดเร็วและมั่นใจ

ขั้นตอนเริ่มต้นซื้อบิทคอยน์ที่ KuCoin Thailand 

1. สมัครบัญชี KuCoin Thailand
  • เข้าไปที่เว็บไซต์ KuCoin Thailand

  • คลิกที่ "สมัคร" และกรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น อีเมลและรหัสผ่าน

  • ยืนยันตัวตนผ่านอีเมลที่ได้รับ

2. ยืนยันตัวตน (KYC)
  • เข้าสู่ระบบและไปที่ "บัญชีของฉัน"

  • เลือก "ยืนยันตัวตน" และกรอกข้อมูลที่จำเป็น เช่น ชื่อ ที่อยู่ และอัปโหลดเอกสารยืนยันตัวตน

  • รอการตรวจสอบจากทีมงาน KuCoin Thailand

3. ฝากเงินเข้าสู่บัญชี
  • ไปที่ "กระเป๋าเงิน" และเลือก "ฝาก"

  • เลือกสกุลเงินที่ต้องการฝาก เช่น THB (บาทไทย) หรือ USDT

  • ทำการโอนเงินตามข้อมูลที่ระบบแสดง

4. ซื้อบิทคอยน์
  • หลังจากยอดเงินเข้าบัญชีแล้ว ไปที่ "ซื้อขาย"

  • เลือกคู่เหรียญที่ต้องการซื้อ เช่น BTC/USDT

  • กรอกจำนวนที่ต้องการซื้อและยืนยันการทำรายการ

 

วิธีเก็บรักษาบิทคอยน์: Hot Wallet vs Cold Wallet

การเก็บรักษาบิทคอยน์สามารถทำได้สองรูปแบบหลัก คือ Hot Wallet ที่เข้าถึงง่ายแต่เสี่ยงกว่ากับ Cold Wallet ที่ปลอดภัยสูงแต่ใช้งานไม่สะดวกเท่า

การเก็บรักษาบิทคอยน์มีสองวิธีหลัก ได้แก่ Hot Wallet และ Cold Wallet ซึ่งต่างกันที่ความสะดวกและความปลอดภัย

  • Hot Wallet (กระเป๋าเงินร้อน) เป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต เช่น แอปบนมือถือ เว็บไซต์ Exchange หรือกระเป๋าเงินออนไลน์ ซึ่ง Hot Wallet เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ เข้าถึงและทำธุรกรรมบ่อยๆ เพราะสามารถโอนซื้อขายได้ทันที แต่ความเสี่ยงคืออาจถูกแฮกหรือโจรกรรมออนไลน์ได้

  • Cold Wallet (กระเป๋าเงินเย็น) เป็นกระเป๋าเงินที่ไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เช่น กระดาษพิมพ์ Private Key หรือ Hardware Wallet การเก็บเหรียญใน Cold Wallet มีความปลอดภัยสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บบิทคอยน์ระยะยาวแต่อาจไม่สะดวกต่อการซื้อขายหรือโอนเงินบ่อยๆ

 

คุณสมบัติ

Hot Wallet (กระเป๋าเงินร้อน)

Cold Wallet (กระเป๋าเงินเย็น)

การเชื่อมต่อ

เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา

ไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

ความปลอดภัย

เสี่ยงต่อการแฮกและโจรกรรมออนไลน์

ปลอดภัยสูง แทบไม่เสี่ยงต่อการแฮก

ความสะดวกในการใช้งาน

สะดวก สามารถโอนซื้อขายได้ทันที

ไม่สะดวก เหมาะสำหรับเก็บระยะยาว

เหมาะกับใคร

ผู้ที่ทำธุรกรรมบ่อยหรือซื้อขายบ่อย

นักลงทุนระยะยาวหรือเก็บมูลค่าใหญ่

ตัวอย่าง

แอปมือถือ, Exchange, เว็บ Wallet

Hardware Wallet (Ledger, Trezor), กระดาษ Private Key

 

ข้อดีและข้อเสียของการลงทุนบิทคอยน์

การลงทุนบิทคอยน์เป็นหนึ่งในวิธีที่นักลงทุนหลายคนเลือกเพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาว หรือ กระจายความเสี่ยงจากสินทรัพย์อื่น การลงทุนในบิทคอยน์ก็มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่ควรพิจารณาให้รอบคอบ ก่อนตัดสินใจลงทุนไม่ต่างกับการลงทุนทุกๆ ประเภท นักลงทุนควรเข้าใจทั้งข้อดีและข้อเสีย เพื่อวางแผนการลงทุนให้เหมาะสมกับเป้าหมายและความสามารถในการรับความเสี่ยง

ข้อดีของการลงทุนบิทคอยน์

  1. มีโอกาสเติบโตสูง: บิทคอยน์เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีปริมาณจำกัด หากความต้องการสูง ราคามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

  2. โอนเงินข้ามประเทศสะดวก: สามารถส่งบิทคอยน์ไปยังใครก็ได้ทั่วโลกโดยไม่ต้องผ่านธนาคาร

  3. เป็นสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ: เนื่องจากมีจำนวนจำกัด ทำให้บิทคอยน์ถูกมองว่าเป็นทองคำดิจิทัล

  4. โปร่งใสและตรวจสอบธุรกรรมได้: ระบบบล็อกเชนทำให้การโอนและถือครองบิทคอยน์ตรวจสอบได้

ข้อเสียของการลงทุนบิทคอยน์

  1. ความผันผวนสูง: ราคาบิทคอยน์สามารถขึ้นและลงอย่างรุนแรงภายในเวลาอันสั้น

  2. ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย: หากเก็บใน Hot Wallet หรือเก็บอย่างไม่ระมัดระวัง Private Key อาจถูกแฮกหรือสูญหายได้

  3. เรื่องกฎหมายและภาษีที่ไม่แน่นอน: บางประเทศมีข้อจำกัดในการใช้งานหรือภาษีที่เปลี่ยนแปลงได้

  4. ต้องมีความรู้ด้านเทคโนโลยี: นักลงทุนควรเข้าใจวิธีเก็บรักษา การซื้อขาย และความเสี่ยงของตลาดดิจิทัล

 

ความเสี่ยงของบิทคอยน์ที่ควรรู้

แม้บิทคอยน์จะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูง แต่ก็มาพร้อมความเสี่ยงทั้งด้านราคา ความปลอดภัย และกฎหมาย นักลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูลและจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

แม้ว่าบิทคอยน์จะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงและเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับความนิยม แต่ก็มีความเสี่ยงหลายด้านที่นักลงทุนควรตระหนักก่อนตัดสินใจลงทุน

ความผันผวนของราคา 

ราคาบิทคอยน์ขึ้นลงอย่างรวดเร็วและไม่สามารถคาดการณ์ได้แน่นอน บางครั้งราคาอาจปรับตัวเพิ่มขึ้นหลายเปอร์เซ็นต์ภายในวันเดียว แต่ก็สามารถลดลงแรงได้เช่นกัน ความผันผวนนี้เกิดจากหลายปัจจัย เช่น ความต้องการตลาด การประกาศนโยบายของรัฐบาล ข้อมูลสถาบันลงทุน 

หรือเหตุการณ์โลกที่กระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุน นักลงทุนที่ซื้อขายโดยไม่ระมัดระวังอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ภายในเวลาอันสั้น

ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย 

บิทคอยน์เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ต้องเก็บในกระเป๋าเงินดิจิทัล (Wallet) หากเก็บใน Hot Wallet หรือบน แพลตฟอร์ม Exchange ที่ไม่ได้มาตรฐานก็อาจถูกแฮกได้ 

นอกจากนี้การจัดการ Private Key หรือรหัสสำคัญส่วนตัวไม่รัดกุมก็ถือเป็นความเสี่ยงสำคัญ ทำให้การรักษาความปลอดภัยและการเลือกวิธีเก็บรักษาเหรียญมีความสำคัญอย่างมาก

ความเสี่ยงด้านกฎหมายและภาษี 

บิทคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ยังอยู่ในพื้นที่กฎหมายที่ไม่ชัดเจนในหลายประเทศ บางประเทศอาจมีข้อจำกัดในการถือครอง ซื้อขาย หรือใช้จ่าย 

การเปลี่ยนแปลงกฎหมายและนโยบายภาษีสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทำให้มูลค่าของบิทคอยน์และความสามารถในการใช้งานอาจได้รับผลกระทบ นักลงทุนจึงควรติดตามข่าวสารและข้อกำหนดทางกฎหมายในประเทศอย่างสม่ำเสมอ

การตระหนักถึงความเสี่ยง การกระจายการลงทุน และการเก็บรักษาเหรียญอย่างปลอดภัย จะช่วยให้นักลงทุนสามารถลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการลงทุนอย่างยั่งยืนได้

 

กฎหมายไทยเกี่ยวกับการลงทุนคริปโตที่ควรรู้

  1. ในทางกฎหมายของไทยนั้น ก.ล.ต. ได้บังคับใช้ พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 เพื่อกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลทุกประเภท เช่น คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัล

  2. นักลงทุนควรเลือกใช้แพลตฟอร์มที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. เท่านั้น เพราะกฎหมายฉบับใหม่จะเปิดโอกาสให้ ก.ล.ต. ปิดกั้นแพลตฟอร์มที่ไม่ได้อนุญาตได้ง่ายขึ้น

  3. ด้านภาษี กรมสรรพากรได้กำหนดให้กำไรจากการขาย/แลกเปลี่ยนคริปโต (หรือผลตอบแทนจากการขุด/ staking) ถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(4)(ฌ) หรือ มาตรา 40(8) และสามารถหักขาดทุนมาลดภาระภาษีได้ หากธุรกรรมนั้นทำผ่าน Exchange ที่ ก.ล.ต. รับรอง

อ้างอิงข้อมูลจาก :

https://sec.or.th/TH/Documents/DigitalAsset/digitalasset_summary.pdf

https://www.sec.or.th/digitalasset

https://siamblockchain.com/2025/04/13/thai-sec-to-prohibit-unregister-crypto-platform

https://www.rd.go.th/fileadmin/user_upload/lorkhor/information/manual_crypto_310165.pdf

https://siamblockchain.com/2025/01/03/tax-filing-for-thai-crypto-investor-2025/

 

เปรียบเทียบการลงทุนบิทคอยน์กับการลงทุนอื่นๆ

การลงทุนในบิทคอยน์แตกต่างจากการลงทุนแบบดั้งเดิมอย่าง หุ้น กองทุนรวมหรือทองคำในหลายด้าน ซึ่งนักลงทุนควรเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้เพื่อเลือกกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายและความสามารถในการรับความเสี่ยงของตนเอง

ตารางเปรียบเทียบการลงทุนบิทคอยน์กับการลงทุนอื่นๆ

ประเภทการลงทุน

ความเสี่ยง

ความผันผวน

โอกาสสร้างผลตอบแทน

การเข้าถึง

เหมาะกับใคร

บิทคอยน์ (Bitcoin)

สูง

สูง

สูง

ออนไลน์ผ่าน Exchange

นักลงทุนกล้าเสี่ยง มือใหม่ที่ต้องการเริ่มด้วยจำนวนเงินต่ำ

หุ้น (Stock)

ปานกลาง

ปานกลางถึงสูง

ปานกลางถึงสูง

ผ่านโบรกเกอร์

นักลงทุนระยะกลางถึงยาว ต้องติดตามข่าวสารตลาด

กองทุนรวม (Mutual Fund)

ต่ำถึงปานกลาง

ต่ำถึงปานกลาง

ปานกลาง

ผ่านธนาคาร/โบรกเกอร์

นักลงทุนระยะยาว ต้องการความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง

ทองคำ (Gold)

ต่ำ

ต่ำ

ต่ำถึงปานกลาง

ร้านทอง, ออนไลน์

นักลงทุนระยะยาว ต้องการป้องกันเงินเฟ้อ

อสังหาริมทรัพย์

ปานกลาง

ต่ำ

ปานกลางถึงสูง

ต้องซื้อ-ขายภาคพื้น

นักลงทุนระยะยาว มีทุนมาก และต้องการสร้างรายได้จากค่าเช่า

 

จากตาราง เมื่อเปรียบเทียบการลงทุนในบิทคอยน์กับสินทรัพย์แบบดั้งเดิมอย่างทองคำ หุ้น และอสังหาริมทรัพย์ จะเห็นว่าบิทคอยน์มีความโดดเด่นในเรื่องสภาพคล่องสูงและการโอนที่รวดเร็วทั่วโลก และยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้มากในระยะเวลาสั้นๆ แต่ในขณะเดียวกันก็แลกมากับความผันผวนของราคาที่สูงและความไม่แน่นอนด้านกฎหมาย 

ขณะที่ทองคำถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงและใช้ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อมายาวนาน แม้จะไม่ให้ผลตอบแทนสูงในระยะสั้น แต่ก็เป็น Store of Value ที่เชื่อถือได้ 

ส่วนหุ้นเป็นการลงทุนที่มีโอกาสเติบโตระยะยาวและยังสร้างรายได้จากเงินปันผลได้ด้วย แต่ความผันผวนก็ขึ้นอยู่กับผลประกอบการและภาวะเศรษฐกิจโดยตรง

ขณะที่อสังหาริมทรัพย์เป็นการลงทุนที่ให้ความมั่นคงในระยะยาวและสามารถสร้างรายได้ต่อเนื่องจากค่าเช่า แต่ต้องใช้เงินลงทุนสูงและมีข้อจำกัดด้านสภาพคล่องเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ

 

การใช้งานบิทคอยน์ในโลกจริง

บิทคอยน์ไม่ได้เป็นเพียงสินทรัพย์เพื่อการลงทุนเท่านั้น แต่ยังถูกใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ทั้งการซื้อสินค้า การโอนเงินข้ามประเทศ และการเข้าร่วมในโลกดิจิทัลอย่าง NFT, DeFi และ GameFi

แม้ว่าบิทคอยน์มักถูกมองเป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุนเพียงอย่างเดียว แต่ในโลกจริงก็มีการใช้งานหลายด้านที่น่าสนใจ ซึ่งนักลงทุนและผู้ถือบิทคอยน์สามารถใช้เหรียญได้หลากหลายรูปแบบ เช่น

  1. ซื้อสินค้าและบริการ

บิทคอยน์สามารถใช้ซื้อสินค้าและบริการได้ทั้งออนไลน์และหน้าร้านที่รองรับการชำระเงินด้วยคริปโต การชำระเงินด้วยบิทคอยน์ช่วยให้การทำธุรกรรมรวดเร็ว ไม่ต้องผ่านตัวกลางอย่างธนาคาร และสามารถใช้ในการซื้อสินค้าจากต่างประเทศได้ทันทีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนหรือค่าธรรมเนียมโอนเงินระหว่างประเทศเลย

  1. โอนเงินข้ามประเทศ

หนึ่งในข้อได้เปรียบสำคัญของบิทคอยน์คือการโอนเงินระหว่างประเทศได้อย่างรวดเร็วและมีค่าธรรมเนียมต่ำ ผู้ใช้งานสามารถส่งเงินให้ครอบครัวหรือธุรกิจในต่างประเทศโดยไม่ต้องผ่านธนาคารหรือบริษัทโอนเงินแบบดั้งเดิม โดยใช้เวลาทำธุรกรรมเพียงไม่กี่นาทีหรืออาจเป็นหลักชั่วโมง ขึ้นอยู่กับค่าธรรมเนียมและสภาพของเครือข่ายตอนนั้น

  1. เข้าร่วม NFT, DeFi และ GameFi

บิทคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ สามารถนำไปใช้ได้ในโลกของ NFT (Non-Fungible Token), DeFi (Decentralized Finance) และ GameFi ซึ่งนักลงทุนสามารถซื้อ NFT ที่เป็นงานศิลปะดิจิทัล เหรียญในเกม หรือเข้าร่วมแพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายอำนาจได้ 

การใช้บิทคอยน์ในระบบเหล่านี้ทำให้ผู้ลงทุนมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็วและสร้างรายได้หรือผลตอบแทนใหม่ๆ ได้

  1. ตลาดออนไลน์และ Marketplace

หลายแพลตฟอร์มออนไลน์และ Marketplace เปิดให้ซื้อขายสินค้าหรือบริการด้วยบิทคอยน์ เช่น ร้านค้าออนไลน์ เว็บขายของสะสม หรือแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล 

การใช้บิทคอยน์ใน Marketplace ช่วยให้นักลงทุนสามารถทำธุรกรรมได้อย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และลดความเสี่ยงจากการใช้เงินสดหรือบัตรเครดิต

บิทคอยน์คือเงินแห่งอนาคตจริงหรือ?

บิทคอยน์ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีศักยภาพการเป็นเงินแห่งอนาคต ด้วยการใช้งานจริงในหลายด้านและการยอมรับจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วโลก 

รายงาน “2025 Crypto Market Outlook” ของ Coinbase ระบุว่าตลาดคริปโตมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2025 โดยมีการยอมรับจากสถาบันการเงินเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้บิทคอยน์ไม่ใช่แค่เป็นเครื่องมือการลงทุนเท่านั้น แต่ยังเริ่มมีบทบาทในการทำธุรกรรมจริง

นอกจากนี้บิทคอยน์ถูกนำมาใช้ในหลายด้าน เช่น การชำระเงินออนไลน์ การโอนเงินข้ามประเทศ และการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ การใช้งานเหล่านี้ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในบิทคอยน์และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเป็นเงินในอนาคต 

ขณะที่นักวิเคราะห์จาก Bernstein ได้คาดการณ์ว่าราคาบิทคอยน์อาจแตะระดับ 150,000 ดอลลาร์หลังจากเหตุการณ์ Bitcoin Halving ในปี 2024 ซึ่งจะลดอัตราการสร้างบิทคอยน์ใหม่ลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนแนวโน้มการเติบโตของราคาบิทคอยน์

ดังนั้น ด้วยการยอมรับจากสถาบันการเงิน การใช้งานจริงในหลายด้าน และแนวโน้มการเติบโตในอนาคต ทำให้บิทคอยน์มีศักยภาพที่จะเป็นเงินแห่งอนาคตได้อย่างแท้จริง

 

บิทคอยน์ในประเทศไทย ซื้อขายที่ไหน และกฎหมายว่าอย่างไร

ปัจจุบันนักลงทุนสามารถซื้อขายบิทคอยน์ได้ผ่าน แพลตฟอร์ม Exchange ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแลอย่างธนาคารแห่งประเทศไทยและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) 

Kucoin คือหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมในไทยที่รองรับการซื้อขายบิทคอยน์และคริปโตหลายสกุล เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มลงทุน เพราะมีรูปแบบที่ใช้งานง่าย มีฟีเจอร์สอนการซื้อขาย และสามารถเริ่มลงทุนได้ทันทีหลังสมัครสมาชิก นักลงทุนจึงสามารถเริ่มต้นซื้อขายบิทคอยน์ได้อย่างมั่นใจทั้งในด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบาย

การเข้าใจเรื่องกฎหมายก็สำคัญเช่นกัน ในประเทศไทย การถือครองและซื้อขายบิทคอยน์ยังถูกควบคุมโดยกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล นักลงทุนควรศึกษาข้อกำหนดเรื่องภาษีและข้อบังคับการลงทุน เพื่อการลงทุนที่ถูกต้องและปลอดภัย

ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มสนใจบิทคอยน์หรืออยากขยายพอร์ตคริปโตของตัวเอง การเริ่มต้นก็ง่ายและสะดวกเพียงสมัครใช้งาน Kucoin Thailand วันนี้

 

อัปเดตสถานการณ์บิทคอยน์ ล่าสุด

ราคาบิทคอยน์ร่วงต่ำกว่า $110,000

ช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2025 ราคาบิทคอยน์ร่วงลงต่ำกว่า $110,000 หลังจากหลุดระดับแนวรับสำคัญที่ $112,000 และ $110,000 ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะทดสอบระดับ $100,000 อีกครั้ง นักวิเคราะห์เตือนว่า หากราคายังไม่สามารถฟื้นตัวได้ อาจมีการปรับฐานต่อเนื่องในระยะสั้น

 

ข้อมูลจาก : https://cointelegraph.com/news/bitcoin-drops-under-109k-how-low-can-btc-price-go-next

 

ก.ล.ต. สหรัฐฯ และ CFTC ออกแนวทางการซื้อขายคริปโตแบบ Spot Trading

คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) และคณะกรรมการการซื้อขายสินค้าอนุพันธ์ (CFTC) ของสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์ร่วมที่ชี้แจงว่า กฎหมายปัจจุบันไม่ได้ห้ามการซื้อขายสินทรัพย์คริปโตแบบสปอตบนแพลตฟอร์มที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแล การออกแนวทางนี้ช่วยเพิ่มความชัดเจนและความมั่นใจให้กับนักลงทุนและผู้ให้บริการในตลาดคริปโต

ข้อมูลจาก :

https://cointelegraph.com/news/us-sec-cftc-joint-guidance-spot-crypto-trading

 

FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับบิทคอยน์คืออะไร

1. บิทคอยน์ คืออะไร?

บิทคอยน์ (Bitcoin) คือสกุลเงินดิจิทัลแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) ที่ทำงานบนเทคโนโลยีบล็อกเชน ใช้สำหรับการโอนเงิน การซื้อขาย และการลงทุน

 

2. 1 บิทคอยน์ เท่ากับกี่บาทไทย?

1 BTC อ้าางอิง ณ วันที่ 4 กันยายน 2025 มีราคาประมาณ 3.6 ล้านบาท โดยอิงจากราคาดอลลาร์สหรัฐที่ประมาณ $110,032 USD และการคำนวณด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย

 

3. เหมืองบิทคอยน์คืออะไร?

เหมืองบิทคอยน์ คือกระบวนการใช้คอมพิวเตอร์ประมวลผลเพื่อแก้สมการทางคณิตศาสตร์ และยืนยันธุรกรรมบนบล็อกเชน ผู้ขุดจะได้รางวัลเป็นบิทคอยน์ใหม่

4. บิทคอยน์ ได้เงินยังไง?

นักลงทุนสามารถสร้างรายได้จากบิทคอยน์ได้หลายวิธี เช่น

  • การซื้อขายเก็งกำไร: คือการซื้อมาแล้วขายออกเมื่อราคาสูงขึ้นเพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคา 

  • การลงทุนระยะยาว (HODL): ถือครองระยะยาวโดยเชื่อว่ามูลค่าของบิทคอยน์จะเพิ่มขึ้นในอนาคต

  • การขุดบิทคอยน์ (Mining): ใช้คอมพิวเตอร์หรือเครื่องขุดพิเศษแก้สมการทางคณิตศาสตร์เพื่อสร้างบล็อกใหม่ และได้รับรางวัลเป็นบิทคอยน์

5. บิทคอยน์ผิดกฎหมายไหม?

ในประเทศไทย บิทคอยน์ไม่ผิดกฎหมาย แต่ต้องซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. และต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ด้านภาษี

6. บิทคอยน์ซื้อขั้นต่ำกี่บาท?

ไม่จำเป็นต้องซื้อทั้ง 1 BTC สามารถซื้อเป็นเศษเล็ก ๆ ได้ (หน่วยย่อยเรียกว่า Satoshi) เช่น หลักสิบหรือร้อยบาทก็เริ่มได้

7. ใครเป็นเจ้าของบิทคอยน์?

ไม่มีใครเป็นเจ้าของบิทคอยน์ทั้งหมด เครือข่ายนี้กระจายศูนย์ และผู้ที่ถือ Private Key เท่านั้นที่เป็นเจ้าของเหรียญในกระเป๋าของตน

8. ขุดบิทคอยน์คืออะไร?

การขุดบิทคอยน์ (Mining) คือกระบวนการที่ใช้กำลังประมวลผลของคอมพิวเตอร์หรือเครื่องขุดพิเศษ (Mining rigs) เพื่อแก้สมการทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน โดยมีรางวัลเป็นบิทคอยน์ใหม่ที่ถูกปล่อยเข้าสู่ระบบและค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรม

 

สรุป บิทคอยน์คืออะไร

บิทคอยน์คือสกุลเงินดิจิทัลแรกของโลกที่ปฏิวัติระบบการเงินแบบดั้งเดิม โดยเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถโอนเงินและเก็บรักษามูลค่าได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านธนาคารหรือหน่วยงานกลางใดๆ ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนซึ่งมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และปลอดภัย ทำให้บิทคอยน์ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง

แม้จะมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาและกฎเกณฑ์ทางกฎหมายที่ยังคงเปลี่ยนแปลง แต่บิทคอยน์ก็พิสูจน์แล้วว่ามีบทบาทสำคัญในโลกการเงินยุคใหม่ ทั้งในฐานะสินทรัพย์ลงทุน เครื่องมือเก็งกำไร และช่องทางการชำระเงินที่เริ่มถูกยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทย

หากคุณสนใจเริ่มต้นซื้อขายบิทคอยน์อย่างสะดวกและปลอดภัย ลงทะเบียนกับ KuCoin Thailand วันนี้ และเริ่มต้นเส้นทางการเทรดบิทคอยน์ของคุณอย่างมั่นใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมีประสบการณ์เทรดอยู่แล้วก็สามารถเทรดบิทคอยน์ได้ง่ายๆ และเข้าถึงเหรียญอื่นๆ ที่หลากหลายได้ทันที


⚠️  คำเตือน: คริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัล มีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้


KuCoin Thailand  

(ดำเนินงานโดยบริษัท อีอาร์เอ็กซ์ จำกัด)
Email: happy@kucoin.th | Call Center: 02-080-6060 

📲 ดาวน์โหลดแอป KuCoin Thailand ได้แล้วตอนนี้!
👉  คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลด  พร้อมให้บริการทั้งบน App Store และ Play Store ประเทศไทย