สินทรัพย์ดิจิทัลและการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวของไทย

ภาคการท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย อย่างไรก็ดี ในช่วงปีที่ผ่านมา ประสบปัญหาความท้าทายหลายด้าน โดยเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีแนวโน้มชะลอตัวเนื่องจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ทั้งปี 2568 ประเทศไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศรวมน้อยลงกว่าร้อยละ 3 ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวสูญหายไปกว่าห้าหมื่นล้านบาท

การสร้างความสะดวกสบายให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่กำลังตัดสินใจเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทยเป็นหนึ่งในแนวทางในการแก้ไขปัญหาการชะลอตัวของภาคท่องเที่ยวช่องทางในการชำระราคาสินค้าและบริการเป็นหนึ่งกลวิธีในการสร้างแต้มต่อทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการในประเทศไทยและลดต้นทุนในการใช้จ่ายเงินของนักท่องเที่ยว ในปัจจุบัน ประเทศไทยเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้ช่องทางการชำระเงินได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดสกุลบาทจากผู้ให้บริการรับแลกเปลี่ยนเงิน การใช้บัตรเครดิตหรือเดบิตซึ่งออกโดยสถาบันการเงินในประเทศของนักท่องเที่ยวแต่ละรายเอง หรือแม้แต่การใช้เทคโนโลยีการชำระเงินต่าง ๆ เช่น การใช้ QR code เพื่อชำระเงินสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศที่มีความตกลงด้านการเงินกับประเทศไทย เช่น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และเวียดนาม เป็นต้น

อย่างไรก็ดี การใช้ช่องทางชำระเงินต่าง ๆ ข้างต้นยังมีข้อจำกัดอยู่มาก การใช้เงินสดเป็นวิธีการที่มีต้นทุนสูง ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนการเก็บรักษาเงินสดขณะเดินทางท่องเที่ยว และต้นทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่เป็นมิตรกับผู้แลกเงิน ในส่วนของการใช้บัตรเครดิตหรือเดบิตนั้น สถาบันการเงินที่เป็นผู้ออกบัตรอาจมีการเก็บค่าธรรมเนียมการใช้บริการบัตรในต่างประเทศ นอกจากนั้น อาจมีการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนจากการชำระด้วยบัตรที่สูงกว่าอัตราตามท้องตลาดทั่วไป นอกจากนั้น ร้านค้าขนาดเล็ก โดยเฉพาะผู้ประกอบการในต่างจังหวัดของประเทศไทยอาจจะยังไม่พร้อมที่จะรับชำระเงินเป็นบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต และการใช้ QR code ชำระเงินอาจสะดวกสำหรับร้านค้าและผู้ให้บริการชาวไทยที่ผูกบัญชีธนาคารกับ QR code เพื่อรับชำระอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจากทุกชาติจะชำระเงินด้วยวิธีดังกล่าวได้  ดังนั้น การนำเสนอช่องทางการชำระเงินที่มีต้นทุนต่ำ รวดเร็ว สะดวกสบาย และปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจึงเป็นโจทย์สำคัญที่จะช่วยฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืน

ประเทศไทยถือเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่และผู้ที่ต้องการทำงานได้จากทั่วโลกผ่านอินเตอร์เน็ต (digital nomad) ในปี 2567 ที่ผ่านมา ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์เผยว่ามีนักท่องเที่ยวกลุ่ม digital nomad เดินทางเข้ามาประเทศไทยเพื่อท่องเที่ยวและใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่ทำงานกว่า 1.75 ล้านคน นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มักเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีและเปิดกว้างต่อการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

นอกจากนั้น พัฒนาการของเทคโนโลยีและแนวทางด้านการนำสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนมาปรับใช้เพื่อการชำระราคาในต่างประเทศขณะนี้มีความก้าวหน้าไปมาก  การเปิดโอกาสให้ผู้รับบริการ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวและผู้ที่ใช้ประเทศไทยเป็นฐานเพื่อทำงานออนไลน์ สามารถมีเสรีภาพในการชำระราคาจึงถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวไทย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร โรงแรม หรือผู้ให้บริการอื่น ๆ ในการให้บริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าและเพิ่มแต้มต่อในการดึงดูดเม็ดเงินจากต่างประเทศ

(ดำเนินงานโดยบริษัท อีอาร์เอ็กซ์ จำกัด)
Email: happy@kucoin.th | Call Center: 02-080-6060