Tezos (XTZ) คืออะไร? จุดเด่นและเหตุผลที่ถูกเรียกว่า Blockchain แห่งอนาคต

รู้จัก Tezos (XTZ) บล็อกเชนที่อัปเกรดตัวเองได้ ค่าธรรมเนียมต่ำ ปลอดภัย และถูกเรียกว่า Blockchain แห่งอนาคต

Tezos คือบล็อกเชนแบบเปิด (open-source) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาที่หลายเครือข่ายบล็อกเชนมักเจอ เช่น การต้องทำ hard fork เมื่อมีการอัปเกรดหรือปรับปรุงระบบ

สิ่งที่ทำให้ Tezos แตกต่างคือ กลไก Self-amendment หรือความสามารถในการอัปเดตตัวเองโดยตรง ผู้ถือเหรียญ XTZ สามารถโหวตและมีส่วนร่วมในการตัดสินใจทิศทางการพัฒนาเครือข่าย ทำให้ไม่จำเป็นต้องสร้างเครือข่ายใหม่หรือให้ผู้ใช้งานเลือกข้างแบบในกรณี hard fork เครือข่ายจึงมี เสถียรภาพมากขึ้น และสามารถพัฒนาต่อได้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ Tezos ยังใช้ กลไก Proof-of-Stake (PoS) ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกว่าการขุดแบบ Proof-of-Work และเปิดโอกาสให้ผู้ถือเหรียญเข้ามามีส่วนร่วมในการยืนยันธุรกรรม รับรางวัล รวมถึงโหวตการอัปเกรดโปรโตคอลได้พร้อมกัน ถือเป็นการผสาน บล็อกเชนกับชุมชน ทำให้เครือข่ายเติบโตอย่างยั่งยืนและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้ดี

ตรวจสอบ ราคา Tezos วันนี้ แบบเรียลไทม์ อัปเดตข้อมูลล่าสุด และติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดอย่างใกล้ชิด

Tezos ถูกพัฒนาขึ้นในปี 2014 โดย Arthur Breitman และภรรยา Kathleen Breitman สองนักพัฒนาที่มองเห็นข้อจำกัดของบล็อกเชนยุคแรกๆ อย่าง Bitcoin และ Ethereum โดยเฉพาะปัญหาการอัปเกรดเครือข่ายและความขัดแย้งในชุมชน พวกเขาจึงออกแบบ Tezos ให้เป็นบล็อกเชนที่สามารถ ปรับปรุงตัวเองได้ผ่านกระบวนการโหวตของผู้ถือเหรียญ ซึ่งเป็นแนวคิด self-amending blockchain ที่ทำให้เครือข่ายมีความยืดหยุ่นและสามารถพัฒนาต่อเนื่องโดยไม่สะดุด

ในปี 2017 Tezos จัดการระดมทุนผ่าน Initial Coin Offering (ICO) ซึ่งกลายเป็นหนึ่งใน ICO ที่ใหญ่ที่สุดในยุคนั้น โดยระดมทุนได้มากกว่า 232 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเท่ากับประมาณ 65,000 BTC และ 361,000 ETH ในขณะนั้น) ทำให้ Tezos เป็นที่จับตามองอย่างมากจากนักลงทุนทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จใน ICO กลับตามมาด้วยดราม่าและความขัดแย้งภายใน โดยเฉพาะระหว่างทีมผู้ก่อตั้งกับ Johann Gevers ประธานของ Tezos Foundation ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรในสวิตเซอร์แลนด์ที่ดูแลเงินทุนจาก ICO ความขัดแย้งนี้ทำให้การพัฒนาและเปิดตัวเครือข่ายล่าช้าเกินคาด ส่งผลให้ผู้ลงทุนหลายรายไม่พอใจ และมีการฟ้องร้องเกี่ยวกับความโปร่งใสและการจัดการเงินทุน

ท้ายที่สุด ปัญหาทั้งหมดถูกคลี่คลายหลังจากปรับโครงสร้างภายในมูลนิธิ และ Tezos Foundation ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการบริหารเงินทุนและสนับสนุนการพัฒนาเครือข่ายต่อมา ทำให้ mainnet ของ Tezos เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2018และเริ่มสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและชุมชนผู้ใช้งาน

1. XTZ (เหรียญ tezos)
   เหรียญดิจิทัลประจำเครือข่าย Tezos ใช้สำหรับ โอนมูลค่า จ่ายค่าธรรมเนียม Staking และโหวตในระบบกำกับดูแล

2. Proof-of-Stake (PoS)
   กลไกยืนยันธุรกรรมที่ใช้พลังงานน้อยกว่า Proof-of-Work (เช่น Bitcoin) ผู้ถือเหรียญสามารถนำเหรียญมา stake เพื่อช่วยยืนยันธุรกรรมและรักษาความปลอดภัยเครือข่าย พร้อมรับรางวัลเป็น XTZ

3. Liquid Proof-of-Stake (LPoS)
   ระบบ PoS ของ Tezos ที่ให้ผู้ถือเหรียญเลือกได้ว่าจะยืนยันธุรกรรมเอง (เป็น baker) หรือมอบสิทธิ์ให้คนอื่นทำแทน (delegate) โดยยังถือเหรียญไว้ในกระเป๋าได้เหมือนเดิม ทำให้ทั้งยืดหยุ่นและปลอดภัย

4. Baker
   ผู้ยืนยันธุรกรรมและสร้างบล็อกใหม่ในเครือข่าย Tezos เปรียบเหมือนนักขุดของ PoW แต่ใช้การ stake เหรียญแทนการขุดด้วยพลังงาน

5. Delegator
   ผู้ถือ XTZ ที่ไม่ยืนยันธุรกรรมเอง แต่ส่งสิทธิ์ให้ baker ทำแทน และรับส่วนแบ่งรางวัลจากการ stake

6. Self-amendment
   ระบบที่ให้ Tezos อัปเกรดตัวเองได้โดยไม่ต้อง hard fork ผู้ถือเหรียญสามารถโหวตเพื่อปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงโปรโตคอลได้โดยตรง

7. Governance on-chain
   ระบบกำกับดูแลในบล็อกเชน Tezos ที่ให้ผู้ถือ XTZ มีส่วนร่วมตัดสินใจเรื่องการพัฒนาเครือข่ายโครงการต่างๆ โดยตรงผ่านการโหวตภายในบล็อกเชน

8. Formal Verification
   เทคนิคทางคณิตศาสตร์ที่ตรวจสอบความถูกต้องของ smart contract ช่วยลดข้อผิดพลาด เพิ่มความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจในการใช้งานจริง

9. Tezos Foundation
   องค์กรไม่แสวงหากำไรในสวิตเซอร์แลนด์ ทำหน้าที่ดูแลเงินทุนจาก ICO และสนับสนุนการพัฒนา รวมถึงการขยาย ecosystem ของ Tezos

 

Tezos ใช้ระบบ Liquid Proof-of-Stake (LPoS) ซึ่งเป็นเวอร์ชันปรับปรุงของ Proof-of-Stake ทำให้ผู้ถือเหรียญ XTZ สามารถเข้ามามีส่วนร่วมกับเครือข่ายได้หลายวิธี

ยืนยันธุรกรรม (Baker)

ผู้ที่นำเหรียญ XTZ มา Stake จะทำหน้าที่ตรวจสอบและบันทึกธุรกรรมลงในบล็อกใหม่ เรียกว่า Baker ระบบนี้ปลอดภัยและใช้พลังงานน้อยกว่าการขุดแบบ Bitcoin

โหวตและอัปเกรดระบบ (Governance)

ผู้ถือเหรียญสามารถโหวตเกี่ยวกับการพัฒนาเครือข่าย เช่น การปรับปรุงโปรโตคอลหรือเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ทำให้ Tezos เป็นบล็อกเชนที่สามารถ อัปเกรดตัวเองได้โดยไม่ต้องแยกเชน (self-amending)

มอบสิทธิ์แทน (Delegation)

หากคุณไม่อยากเป็น Baker เอง สามารถส่งสิทธิ์การโหวตและยืนยันธุรกรรมให้ Baker คนอื่นทำแทนได้ และยังได้ส่วนแบ่งรางวัลจากการ Stake เช่นเดิม ทำให้ผู้ใช้งานที่ไม่มีประสบการณ์ก็สามารถเข้าร่วมระบบและสร้างรายได้ได้ง่าย

ตารางเปรียบเทียบ Tezos vs Ethereum vs TRON vs Solana

 

เมื่อเปรียบเทียบบล็อกเชนอย่าง Tezos, Ethereum, TRON และ Solana จะเห็นความแตกต่างชัดเจนทั้งในด้านเทคโนโลยีและการใช้งาน Ethereum ใช้ Proof-of-Stake หลังการอัปเกรด ทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น ขณะที่ Solana โดดเด่นด้วย Proof-of-History ที่รองรัฑบธุรกรรมจำนวนมากต่อวินาที TRON เลือก Delegated Proof-of-Stake ที่ค่าธรรมเนียมต่ำ ส่วน Tezos เน้น Liquid Proof-of-Stake และมีจุดแข็งเรื่อง Self-amendment ที่ช่วยอัปเกรดเครือข่ายได้โดยไม่ต้อง Hard Fork

ด้าน Smart Contracts Ethereum ครองตลาดด้วยแอปพลิเคชันจำนวนมาก Solana กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว TRON ใช้มากในด้านความบันเทิงออนไลน์ ส่วน Tezos เน้นความปลอดภัยของสัญญาอัจฉริยะ สำหรับค่าธรรมเนียม Solana และ TRON ถูกที่สุด Ethereum สูงกว่า ส่วน Tezos อยู่ระดับกลางๆ

แม้โลกบล็อกเชนจะมีโปรเจกต์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่ Tezos (XTZ) ยังคงโดดเด่นด้วยจุดแข็งที่แก้ปัญหาของบล็อกเชนรุ่นก่อน เช่น

1. ระบบ Self-amendment (อัปเกรดตัวเองได้)
Tezos สามารถปรับปรุงโปรโตคอลได้โดยไม่ต้องแยกเชน (hard fork) ผู้ถือเหรียญสามารถโหวตร่วมกันตัดสินใจทิศทางการพัฒนาของเครือข่าย ทำให้เครือข่ายเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยไม่เกิดความขัดแย้ง

2. Liquid Proof-of-Stake (LPoS)
กลไกนี้เปิดโอกาสให้ผู้ถือ XTZ มีส่วนร่วมได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น Baker ที่ยืนยันธุรกรรมเอง หรือ Delegator ที่มอบสิทธิ์ให้ Baker ทำแทน ช่วยให้ทุกคนสามารถร่วมรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายและได้รับรางวัล

3. ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่ำ
เมื่อเทียบกับบล็อกเชนยอดนิยมอย่าง Ethereum ที่มักมีค่าธรรมเนียมสูง Tezos มีค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่า ทำให้เหมาะกับการใช้งานจริง เช่น การโอนเงินหรือการสร้าง NFT

4. ความปลอดภัยด้วย Formal Verification
Tezos รองรับเทคนิคทางคณิตศาสตร์ที่เรียกว่า formal verification เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของ smart contracts ลดความเสี่ยงจากข้อผิดพลาดและเพิ่มความเชื่อมั่นสำหรับการใช้งานระดับองค์กร

5. การกำกับดูแลแบบ On-chain Governance
ผู้ถือ XTZ ทุกคนมีสิทธิ์โหวตและมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตเครือข่าย แตกต่างจากบล็อกเชนอื่นที่การตัดสินใจส่วนใหญ่มาจากทีมพัฒนา

6. การใช้งานจริงที่หลากหลาย
Tezos ถูกนำไปใช้ทั้งในโปรเจกต์ NFT, DeFi และยังมีความร่วมมือกับองค์กรใหญ่ เช่น Ubisoft, Red Bull Racing และธนาคารระดับโลกบางแห่ง

 

เหรียญ XTZ ไม่ได้มีไว้แค่เก็งกำไร แต่ยังมีบทบาทสำคัญในโลกจริง ทั้งในระบบนิเวศของ Tezos เองและการใช้งานเชิงธุรกิจ ปัจจุบัน XTZ ถูกใช้เพื่อขับเคลื่อนการทำธุรกรรม การพัฒนาแอปพลิเคชัน และการมีส่วนร่วมกับโปรเจกต์ Web3 หลายรูปแบบ ดังนี้

 

1. ค่าธรรมเนียมเครือข่าย (Gas Fee)
   ใช้ชำระค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมบนบล็อกเชน Tezos เช่น การโอนเหรียญ ซื้อขาย NFT หรือโต้ตอบกับ Smart Contract

2. Staking / Baking
   ผู้ถือ XTZ สามารถนำเหรียญไป Stake เพื่อช่วยตรวจสอบธุรกรรม (Baking) และรับรางวัลตอบแทน เปรียบเหมือนการฝากเงินแล้วได้ดอกเบี้ย แต่ยังช่วยรักษาความปลอดภัยให้เครือข่ายด้วย

3. การโหวตและกำกับดูแล (Governance)
   XTZ เป็นสิทธิ์ออกเสียงสำหรับโหวตการอัปเกรดโปรโตคอลของ Tezos ซึ่งเป็นระบบ On-chain Governance ทำให้ผู้ถือเหรียญทุกคนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจอนาคตของเครือข่าย

4. การซื้อขาย NFT และ Digital Art
   Tezos เป็นบล็อกเชนที่ศิลปินและนักสะสมดิจิทัลนิยมใช้ เช่น objkt.com, Kalamint และแพลตฟอร์มอื่นๆ เนื่องจากค่าธรรมเนียมถูกกว่าการใช้งาน Ethereum ทำให้ XTZ กลายเป็นสกุลเงินหลักสำหรับซื้อขาย NFT

5. DeFi และ dApps
   XTZ ใช้ในแพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายศูนย์ เช่น การกู้ยืม (Lending), Yield Farming, Liquidity Pool รวมถึงใช้แลกเปลี่ยนภายในแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์

6. ธุรกิจและความร่วมมือในโลกจริง
   Tezos ร่วมมือกับองค์กรใหญ่มากมาย ทำให้ XTZ มีบทบาทจริงที่กว้างขวางทั้งในอุตสาหกรรมเกม กีฬา และความบันเทิง

แม้ว่า Tezos และเหรียญ XTZ จะมีจุดแข็งด้านโครงสร้างบล็อกเชนที่ยืดหยุ่นและระบบการกำกับดูแลบนเครือข่ายที่เป็นเอกลักษณ์ แต่การลงทุนหรือใช้งาน XTZ ยังคงมีข้อจำกัดและความเสี่ยงที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ ได้แก่

1. การแข่งขันในตลาดบล็อกเชน:
   Tezos ต้องเผชิญกับการแข่งขันจากเครือข่ายบล็อกเชนขนาดใหญ่ เช่น Ethereum, Solana และ Avalanche ที่มีฐานผู้พัฒนา แอปพลิเคชัน และผู้ใช้งานจำนวนมาก การดึงดูดนักพัฒนาใหม่และโปรเจกต์ DeFi หรือ NFT จึงต้องใช้เวลาและทรัพยากรมาก
   
   

2. ความผันผวนของราคาเหรียญ XTZ:
   เช่นเดียวกับสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ราคาของ XTZ มีความผันผวนสูงจากปัจจัยตลาด ภาวะเศรษฐกิจ และความสนใจของนักลงทุน สิ่งนี้อาจส่งผลต่อความมั่นใจในการลงทุนและการใช้งาน XTZ ในเชิงพาณิชย์
   
   

3. ข้อจำกัดด้านสภาพคล่อง:
   แม้ XTZ จะมีการซื้อขายในหลายแพลตฟอร์มเทรดคริปโต แต่สภาพคล่องอาจไม่สูงเท่าเหรียญหลักอื่นๆ การซื้อขายในปริมาณมากอาจทำให้ราคาผันผวนหรือเกิดความล่าช้า
   
   

4. ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ (Regulatory Risks): กฎหมายและระเบียบข้อบังคับคริปโตยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ การเปลี่ยนแปลงด้านกฎเกณฑ์อาจส่งผลกระทบต่อการถือครอง ซื้อขาย หรือการดำเนินงานของเครือข่าย Tezos
   
   

5. ความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีและความปลอดภัย:
   แม้ Tezos จะมีระบบ Formal Verification เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของ Smart Contract แต่ความผิดพลาดในการพัฒนาแอปพลิเคชันหรือช่องโหว่ด้านความปลอดภัยยังเป็นไปได้ ซึ่งอาจกระทบต่อเงินลงทุนของผู้ใช้งาน

เหรียญ XTZ เป็นหัวใจของเครือข่าย Tezos ทุกฟังก์ชันในระบบตั้งแต่การทำธุรกรรม การโหวตใน governance ไปจนถึงการมีส่วนร่วมในกลไก Proof-of-Stake ล้วนต้องใช้ XTZ 

 

ดังนั้นการทำความเข้าใจ ครงสร้างของเหรียญ การปล่อยเหรียญ และระบบรางวัล จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะเห็นภาพว่าเหรียญนี้ทำงานอย่างไรและมีมูลค่าอย่างไรในเชิงเศรษฐกิจ

จำนวนเหรียญและการปล่อย (Supply & Issuance)

• จำนวนเหรียญปัจจุบัน: XTZ ไม่มีเพดานสูงสุดที่กำหนดตายตัว (uncapped supply) แต่มีการควบคุมอัตราการเติบโตของเหรียญผ่านกลไกโปรโตคอล

• ปริมาณเหรียญหมุนเวียน (Circulating Supply): ณ เดือนพฤษภาคม 2024 อยู่ที่ประมาณ 1.00 พันล้าน XTZ

• อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate): อยู่ที่ประมาณ 5–6% ต่อปี ซึ่งใช้เป็นรางวัลจูงใจให้ผู้ดูแลเครือข่าย (Bakers) เพิ่มความปลอดภัยและการมีส่วนร่วม 

การแจกจ่ายเหรียญเริ่มต้น (Initial Token Allocation)

• ~79.6% ให้กับผู้ร่วมลงทุนใน ICO

• ~10% จัดสรรให้ Tezos Foundation

• ~10% ให้กับ Dynamic Ledger Solutions (DLS) ผู้ก่อตั้งโครงการ

• ~0.41% ให้ผู้สนับสนุนและผู้มีส่วนร่วมในช่วงแรก

ระบบรางวัลจากการสเตกกิ้ง (Staking Rewards)

ในเครือข่าย Tezos ผู้ถือ XTZ สามารถมีส่วนร่วมในกลไก Proof-of-Stake ได้ผ่านสองวิธีหลัก:

• Baker (Validator): ต้องถือขั้นต่ำประมาณ 6,000 XTZ เพื่อสร้างบล็อกและยืนยันธุรกรรม (attest) จะได้รับรางวัลเป็น XTZ 

• Delegator: ผู้ถือเหรียญที่ไม่ได้ทำหน้าที่ Baker ด้วยตัวเอง สามารถมอบสิทธิ์ให้ Baker ทำหน้าที่แทน และยังได้รับส่วนแบ่งรางวัลจากการ Baking โดยไม่ต้องโอนเหรียญออกจากกระเป๋า

แนวโน้มราคาของ Tezos (XTZ) ในปี 2025 มีทั้งมุมมองเชิงบวกและความระมัดระวังจากนักวิเคราะห์หลายสำนัก 

ข้อมูลจาก CryptoNews.net ประเมินว่า XTZ อาจมีราคาต่ำสุดที่ $0.475 ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ $0.85 และราคาสูงสุดที่ $1.42 ในปี 2025 ขณะที่ Cryptopolitan ให้ตัวเลขใกล้เคียงกัน โดยคาดว่า XTZ จะมีราคาต่ำสุดที่ $0.475 และสูงสุดที่ $1.42 เช่นกัน

นอกจากนี้ CoinCodex คาดการณ์ว่า XTZ จะเคลื่อนไหวในช่วง $0.76 – $0.83 ในปี 2025 ขณะที่ CoinMarketCap คาดว่า XTZ จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ $0.77

จากข้อมูลทั้งหมด จะเห็นได้ว่าการคาดการณ์ราคาของ XTZ ในปี 2025 มีความหลากหลาย โดยมีช่วงราคาต่ำสุดราว $0.475 และสูงสุดราว $1.42 สะท้อนถึงความไม่แน่นอนและความผันผวนของตลาดคริปโต แต่ก็ยังมีโอกาสที่ราคา XTZ จะทรงตัวหรือปรับตัวสูงขึ้นในระยะยาว

 

สำหรับผู้สนใจลงทุนหรือใช้งาน Tezos (XTZ) การเข้าใจวิธีซื้อและเก็บรักษาเหรียญอย่างปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ โดยสามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้

การซื้อเหรียญ Tezos (XTZ)

การซื้อเหรียญ Tezos (XTZ) ในปัจจุบันสามารถทำได้ง่ายผ่านแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตที่น่าเชื่อถือ หนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมคือ KuCoin Thailand ซึ่งมีระบบปลอดภัยและรองรับผู้ใช้งานมือใหม่ ขั้นตอนการซื้อสามารถทำได้ดังนี้

1. สมัครบัญชีและยืนยันตัวตน (KYC): เริ่มต้นด้วยการสร้างบัญชีผู้ใช้งานบน KuCoin Thailand จากนั้นทำการยืนยันตัวตนตามขั้นตอน KYC เพื่อให้บัญชีของคุณปลอดภัยและสามารถทำธุรกรรมได้เต็มรูปแบบ

2. เติมเงินเข้าบัญชี: คุณสามารถเติมเงินผ่านช่องทางที่ KuCoin Thailand รองรับ เช่น การโอนเงิน fiat หรือโอนคริปโตจากกระเป๋าอื่นเข้าสู่บัญชีก็ทำได้

3. ค้นหาเหรียญ XTZ: หลังจากเติมเงินแล้ว ให้ไปที่ตลาด Spot ของ KuCoin Thailand และค้นหาเหรียญ Tezos (XTZ)

4. เลือกประเภทคำสั่งซื้อ: คุณสามารถตั้งคำสั่งซื้อแบบ Market Order เพื่อซื้อทันทีตามราคาตลาด หรือเลือก Limit Order เพื่อตั้งราคาที่ต้องการซื้อและรอให้ระบบจับคู่คำสั่ง

5. ยืนยันคำสั่งซื้อและติดตามพอร์ต: หลังจากซื้อสำเร็จ คุณสามารถตรวจสอบยอด XTZ ในกระเป๋าเงินของคุณและติดตามการเปลี่ยนแปลงราคาเหรียญได้แบบเรียลไทม์

การเก็บรักษาเหรียญ XTZ

การเก็บรักษาเหรียญ Tezos (XTZ) อย่างปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ เพราะแม้เครือข่าย Tezos จะมีความปลอดภัยสูง แต่ผู้ใช้งานยังเสี่ยงต่อการถูกแฮกหรือสูญหายของเหรียญ วิธีหลักๆ ในการเก็บ XTZ มีดังนี้

1. เก็บใน Software Wallet (Hot Wallet)
   Hot Wallet คือกระเป๋าเงินที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ทำให้โอนหรือซื้อขายเหรียญได้สะดวกรวดเร็ว โดยรวมถึงทั้ง Exchange Wallet เช่น KuCoin Wallet และ Software Wallet เช่น Atomic Wallet หรือ Galleon Wallet ข้อดีคือสะดวกต่อการใช้งาน แต่ต้องระวังความเสี่ยงจากการโดนแฮกหรือปัญหาของแพลตฟอร์ม
   
   

2. เก็บใน Hardware Wallet (Cold Wallet)
   Cold Wallet คือกระเป๋าเงินออฟไลน์ เช่น Hardware Wallet อย่าง Ledger Nano S/X หรือ Trezor เหมาะสำหรับผู้ถือ XTZ จำนวนมากหรือเก็บระยะยาว เพราะป้องกันการโจรกรรมจากโลกออนไลน์ได้ดีที่สุด

การอัปเกรดโปรโตคอล Rio (1 พฤษภาคม 2025)

Tezos ได้เปิดตัวการอัปเกรดโปรโตคอลที่ชื่อว่า Rio ซึ่งเป็นการอัปเกรดครั้งที่ 18 ของเครือข่าย การอัปเกรดนี้มุ่งเน้นไปที่การเพิ่มความยืดหยุ่นในการสเตกกิ้งและการสนับสนุนการขยายตัวของ Layer 2 ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับ Tezos ในตลาดคริปโต

ข้อมูลจาก : https://tezos.com/upgrades

การเปิดตัว Liquid Staking (13 สิงหาคม 2025)

Tezos ได้เปิดตัว stXTZ ซึ่งเป็น derivative ของการสเตกกิ้งที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าร่วม DeFi ได้โดยไม่ต้องปล่อยเหรียญออกจากการสเตกกิ้ง การเปิดตัวนี้เกิดขึ้นบน Etherlink ซึ่งเป็น Layer 2 ของ Tezos ที่รองรับ Ethereum Virtual Machine (EVM) ผู้ใช้สามารถใช้ stXTZ ในโปรโตคอล DeFi ต่าง ๆ และรับรางวัลจากการสเตกกิ้งได้พร้อมกัน

ข้อมูลจาก : https://crypto.news/tag/tezos

1. Tezos คืออะไร แตกต่างจาก Ethereum ยังไง?

Tezos เป็นบล็อกเชนแบบ Proof-of-Stake (PoS) ที่มีจุดเด่นเรื่อง Self-amendment หรือความสามารถในการอัปเกรดโปรโตคอลด้วยตนเองผ่านการโหวตของผู้ถือเหรียญ โดยไม่เกิดการ fork แตกต่างจาก Ethereum ที่แม้จะใช้ PoS แล้ว แต่การอัปเกรดยังต้องใช้วิธี hard fork และมักมีข้อขัดแย้งในชุมชน

2. XTZ ใช้ทำอะไรได้บ้าง?

เหรียญ XTZ ใช้ในการ:

• จ่ายค่าธรรมเนียมธุรกรรม (Gas Fee): ใช้สำหรับโอนเหรียญหรือทำธุรกรรมบนเครือข่าย Tezos

• Staking / Baking: ผู้ถือ XTZ สามารถนำเหรียญไป Stake เพื่อช่วยตรวจสอบธุรกรรมและสร้างบล็อกใหม่ เรียกว่า Baking

• Governance / การโหวต: XTZ ให้สิทธิ์ผู้ถือเหรียญโหวตเกี่ยวกับการอัปเกรดหรือพัฒนาระบบเครือข่าย ทำให้ทุกคนมีส่วนร่วมตัดสินใจอนาคตของ Tezos

• DeFi และ NFT: XTZ ถูกใช้เป็นสกุลเงินหลักในการทำธุรกรรม DeFi เช่น กู้ยืม, ฝากเงิน, แลกเปลี่ยนเหรียญ หรือซื้อขาย NFT บนแพลตฟอร์มที่รองรับ Tezos

3. ซื้อ Tezos ได้ที่ไหน?

เหรียญ XTZ สามารถซื้อขายได้บนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตหลายแห่ง ซึ่ง KuCoin Thailand เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก 

ด้วยจุดเด่นด้านระบบปลอดภัย ความมั่นคง และสภาพคล่องสูง ทำให้ซื้อขายเหรียญได้สะดวก และรองรับหลายคู่เทรด นอกจากนี้ KuCoin Thailand ยังใช้งานง่าย เหมาะทั้งผู้เริ่มต้นและนักลงทุนที่มีประสบการณ์ ทำให้สามารถเริ่มลงทุนหรือจัดการพอร์ต XTZ ของตัวเองได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

4. Tezos เหมาะกับมือใหม่ไหม?

Tezos เป็นเหรียญที่เหมาะกับมือใหม่เช่นกัน แต่การลงทุนหรือใช้งาน XTZ จะได้ประโยชน์สูงสุดถ้าผู้ถือมีความเข้าใจเรื่อง Staking เพราะเป็นฟีเจอร์สำคัญของระบบ นอกจากนี้ XTZ ยังมีความเสี่ยงปานกลางและไม่ซับซ้อนเท่ากับเหรียญ DeFi บางตัว

Tezos (XTZ) คือหนึ่งในบล็อกเชนที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Proof-of-Stake (PoS) ซึ่งออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพสูง ใช้พลังงานน้อยกว่าระบบ Proof-of-Work และยังเปิดโอกาสให้ผู้ถือเหรียญเข้ามามีส่วนร่วมในการรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย ผ่านกระบวนการ Staking

สิ่งที่ทำให้ Tezos แตกต่างจากบล็อกเชนอื่นๆ คือกลไก Self-amendment ที่ช่วยให้เครือข่ายสามารถอัปเกรดโปรโตคอลด้วยตัวเองผ่านการโหวตของผู้ถือเหรียญ โดยไม่ต้องทำ hard fork ซึ่งระบบนี้ช่วยให้ Tezos พัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยไม่เกิดความขัดแย้งในเครือข่าย

ด้วยความปลอดภัยสูง ค่าธรรมเนียมต่ำ การมีส่วนร่วมของชุมชน และความสามารถในการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง Tezos จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทั้งสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสระยะกลางถึงระยะยาว 

ซื้อ XTZ อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยกับ KuCoin Thailand ลงทะเบียนวันนี้และเริ่มเทรดได้ทันที!

(ดำเนินงานโดยบริษัท อีอาร์เอ็กซ์ จำกัด)
Email: happy@kucoin.th | Call Center: 02-080-6060