img

Smart Contract ในไทย: สถานะทางกฎหมายเป็นอย่างไร?

2025/11/20 02:48:02

Custom
Smart Contract บนบล็อกเชนคือโปรแกรมที่ทำงานอัตโนมัติบนเครือข่ายที่เก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ โดยตั้งเงื่อนไขล่วงหน้าว่าจะทำอะไรเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่กำหนดไว้ เช่น หากผู้ซื้อไม่จ่ายเงินตามกำหนด ระบบจะสั่งโอนเงินมัดจำที่เก็บไว้ในบัญชีกลางไปยังผู้ขายทันที โดยไม่ต้องมีการอนุมัติจากคู่สัญญาหรือบุคคลอื่น กลไกนี้ทำให้ธุรกรรมเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและลดการแทรกแซงจากมนุษย์

ปัจจุบัน Smart Contract ถูกใช้ในหลายธุรกิจดิจิทัล เช่น DeFi ที่ช่วยจับคู่ผู้กู้และผู้ให้กู้ คำนวณดอกเบี้ย และปล่อยหลักประกันอัตโนมัติเมื่อชำระหนี้เสร็จ ตัวอย่างแพลตฟอร์มที่ใช้กลไกนี้คือ Aave และ Compound อีกตัวอย่างคือ Supply Chain ที่ใช้ Smart Contract เพื่อติดตามสินค้าและปล่อยการชำระเงินเมื่อสินค้าถึงจุดตรวจ ทำให้กระบวนการโปร่งใสและลดการปลอมแปลง

อย่างไรก็ตาม Smart Contract ไม่ใช่สัญญาตามกฎหมายโดยตรง แต่เป็นเพียงโปรแกรมที่ทำงานตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้ ดังนั้นต้องพิจารณาว่าในกรณีใดที่ Smart Contract จะสร้างผลทางกฎหมายได้ โดยมี 3 กรณีสำคัญ:

กรณีที่หนึ่ง: ใช้แสดงเจตนาและทำสัญญา

กฎหมายไทยรองรับการทำสัญญาในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ตาม พระราชบัญญัติธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 โดยต้องมีระบบที่รักษาความถูกต้องของข้อความและสามารถแสดงได้ในภายหลัง คู่สัญญาต้องแสดงเจตนาผูกพันต่อสัญญาผ่านวิธีอิเล็กทรอนิกส์ และมีการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ตรวจสอบได้ว่าเป็นของคู่สัญญาจริง หาก Smart Contract ทำงานบน Layer 1 อาจต้องใช้วิธีพิสูจน์ตัวตนนอกเครือข่ายประกอบเพื่อยืนยันว่าเป็นบุคคลที่ตั้งใจทำสัญญา

กรณีที่สอง: ใช้บังคับเงื่อนไขของสัญญา

ตัวอย่างคือการใช้ Smart Contract ในสัญญากู้เงิน ระบบสามารถตรวจสอบมูลค่าหลักประกัน โอนเงินกู้เมื่อเงื่อนไขครบถ้วน คำนวณดอกเบี้ยแบบเรียลไทม์ และคืนหลักประกันเมื่อชำระหนี้เสร็จ หากมูลค่าหลักประกันต่ำกว่าที่กำหนด ระบบจะสั่งขายหลักประกันทันที ในกรณีนี้ Smart Contract เป็นเพียงเครื่องมือช่วยบริหารสัญญา ผลทางกฎหมายยังขึ้นอยู่กับการทำสัญญาตามกฎหมายธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์

กรณีที่สาม: ใช้เป็นหลักฐานสิทธิในสัญญา

ตัวอย่างคือการสร้าง NFT โดย Smart Contract ผลิตรหัสโทเคนเฉพาะ เชื่อมโยงกับข้อมูลดิจิทัล และบันทึกการโอนสิทธิระหว่างผู้ถือครอง รวมถึงบังคับเงื่อนไขค่าลิขสิทธิ์ทุกครั้งที่ NFT ถูกขายต่อ ในกรณีนี้ Smart Contract ช่วยให้สิทธิตามสัญญาบังคับใช้ได้จริง เช่น สิทธิในทรัพย์สินดิจิทัลหรือค่าลิขสิทธิ์

สรุป

Smart Contract ไม่ใช่สัญญาตามกฎหมายเสมอไป แต่เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้การทำธุรกรรมในโลกดิจิทัลมีประสิทธิภาพและสามารถบังคับตามเงื่อนไขได้ หากต้องการให้มีผลทางกฎหมาย ต้องทำให้สอดคล้องกับกฎหมายธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง


⚠️  คำเตือน: คริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัล มีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้


KuCoin Thailand  

(ดำเนินงานโดยบริษัท อีอาร์เอ็กซ์ จำกัด)
Email: happy@kucoin.th | Call Center: 02-080-6060 

📲 ดาวน์โหลดแอป KuCoin Thailand ได้แล้วตอนนี้!
👉  คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลด  พร้อมให้บริการทั้งบน App Store และ Play Store ประเทศไทย